พาณิชย์ ดันเกษตรกรโกอินเตอร์ขายสินค้าชุมชน สร้างมูลค่าการค้ากว่า 125 ล้านบาท

พาณิชย์ ดันเกษตรกรโกอินเตอร์ขายสินค้าชุมชน สร้างมูลค่าการค้ากว่า 125 ล้านบาท

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศโชว์ผลงานเซลส์แมน ช่วยเกษตรและผู้ผลิตสินค้าชุมชนโกอินเตอร์ ดันจับคู่เจรจาซื้อขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว 21 คู่ สร้างมูลค่าการค้าแล้วกว่า 125 ล้าน เผยยังแจ้งความสนใจจะซื้อจะขายอีกกว่า 50 รายการ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการขยายตลาดสินค้าและบริการของไทยในต่างประเทศ ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทูตพาณิชย์ ในฐานะเซลส์แมนประเทศ กับพาณิชย์จังหวัดในฐานะเซลส์แมนจังหวัด ว่า ตั้งแต่เดือนมี.ค.2564 ถึงปัจจุบัน มีผลการดำเนินงานเชื่อมโยงการทำงานระหว่างทูตพาณิชย์กับพาณิชย์จังหวัด ในการส่งเสริมและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร สินค้าชุมชน ตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยได้มีการจับคู่เจรจาการค้า และมีการตกลงซื้อขายแล้ว รวม 21 คู่ สร้างมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 125,619,368 บาท

โดยผลการดำเนินการ แยกเป็นการเจรจาสินค้าผลไม้ เช่น มะม่วง มังคุด เงาะ ลำไย ทุเรียน จำนวน 17 คู่ มีมูลค่า 125,119,368 บาท โดยเป็นการประสานการจับคู่โดยทูตพาณิชย์ฮ่องกงกับพาณิชย์จังหวัดปทุมธานี 55 ล้านบาท สระแก้ว 45 ล้านบาท และพิจิตร 69,368 บาท และทูตพาณิชย์กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย กับพาณิชย์จังหวัด 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยภูมิ นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง เชียงใหม่ ลำพูน และกรุงเทพฯ มูลค่า 25,050,000 บาท สินค้าอาหาร ซอสปรุงรส ขนมขบเคี้ยว จำนวน 3 คู่ เป็นการประสานงานโดยทูตพาณิชย์โฮจิมินห์ เวียดนาม กับพาณิชย์จังหวัดกาญจนบุรี มูลค่า 460,000 บาท ทูตพาณิชย์เบอร์ลิน เยอรมนี กับพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี 5,000 บาท สินค้าโคมไฟ (โคมยี่เป็ง) จำนวน 1 คู่ โดยทูตพาณิชย์มะนิลา (ส่วนที่ 2) กับพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ มูลค่า 35,000 บาท

นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งความต้องการจะซื้อจะขาย รวมกว่า 50 รายการ แบ่งเป็นความต้องการจะขายจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เช่น เครื่องปรุงรส ขิงดอง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลำไยสด เครื่องสำอาง ธัญพืชอบกรอบ เผือกหอม ผลิตภัณฑ์สปา ชาสมุนไพร ของตกแต่งบ้าน สับปะรดกระป๋อง เป็นต้น และความต้องการจะซื้อจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ เช่น เครื่องแกงและผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิกที่มีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม กะทิ น้ำปลา น้ำมันรำข้าว ขิงและกระเทียมขูด ผลไม้สด น้ำมันมะพร้าวสำหรับบริโภค อุปกรณ์ทางการแพทย์ ปลาสวยงาม เมล็ดพันธุ์ผักและผลไม้ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น

 ทั้งนี้ สินค้าที่มีโอกาสที่จะขายได้ เช่น สินค้าอาหารปลอดภัย ได้มีการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ ระหว่างผู้นำเข้าสหรัฐฯ ในไมอามี กับวิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผัก ภายใต้ชื่อบริษัท ชนะออร์แกนิก (ข้าวหอมมะลิและข้าวกล้อง) วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรโครงการปลูกข้าวและพืชผักปลอดภัยและพลังงานทดแทนพร้อมทั้งแปรรูปสมุนไพรและจำหน่าย (วัตถุดิบสำหรับทำเครื่องแกงออร์แกนิก) ผ่านการประสานงานระหว่างพาณิชย์จังหวัดนครสวรรค์ และทูตพาณิชย์ไมอามี ซึ่งในเบื้องต้น ผลการเจรจาอยู่ระหว่างจัดส่งตัวอย่างสินค้าให้ผู้นำเข้าพิจารณา แต่เป็นการเปิดโอกาสให้กลุ่มเกษตรกรฐานราก ได้มีช่องทางในการเชื่อมโยงสินค้าจากท้องถิ่นสู่ตลาดโลกและได้รับประสบการณ์ในการเจรจาการค้ากับผู้นำเข้าในต่างประเทศโดยตรง

 

ขณะเดียวกัน ยังมีสินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ได้มีการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ ระหว่างผู้นำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์ คือ บริษัท Smitcare กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร กับสมาคมการค้าผู้ประกอบการผลิตเครื่องจักรชิ้นส่วนโลหะและอุตสาหกรรมสนับสนุนไทย (Mic-T) จังหวัดลำพูน โดยบริษัท Smitcare สนใจสั่งผลิตรถเข็นผู้ป่วย จำนวน 15,000 ชิ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาในรายละเอียด