STPI เตรียมที่ดิน1พันไร่ ปลูก-ตั้งโรงสกัดกัญชง ยันดำเนินการตามข้อกำหนด

STPI เตรียมที่ดิน1พันไร่ ปลูก-ตั้งโรงสกัดกัญชง ยันดำเนินการตามข้อกำหนด

STPIเตรียม ปลูก-ตั้งโรงสกัดกัญชง ร่วมกับพันธมิตร หวังเสริมรายได้หลัก คาดใช้เงินลงทุนหลัก100 ล้าน ยันดำเนินการตามขั้นตอน-โปร่งใส 

นายชำนิ จันทร์ฉาย กรรมการบริษัทเอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)หรือ STPI และประธานโครงการปลูกและสกัดกัญชง เปิดเผยว่า บริษัทแตกไลน์ทำธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกัญชง เพื่อกระจายฐานรายได้เพิ่มขึ้น โดยจะทำ 2 ส่วน คือ ธุรกิจต้นน้ำ ในการปลูก ซึ่งบริษัทมีที่ดิน จำนวน 1,000 ไร่ ที่จังหวัดชลบุรี โดยบริษัทได้มีการยื่นขออนุญาตการปลูกกัญชงแล้ว และอยู่ระหว่างรออนุญาต โดยช่วงแรก จะทดลองปลูกก่อน2-10 ไร่ ซึ่งเป็นระบบเปิด และที่บริษัทจะมีการสร้างโรงเรือนกรีนเฮ้าส์เพื่อปลูกกัญชงในระบบปิด

รวมถึงธุรกิจกลางน้ำ คือตั้งโรงงานสกัดสารCBD เพื่อจำหน่ายสารCBD ให้กับผู้นำสารดังกล่าวไปผลิตเป็นสินค้า โดยโรงสกัดสาร CBD นั้นบริษัทยังไม่ได้ยื่นขออนุญาต เพราะต้องการที่จะสร้างโรงเรือนกรีนเฮาส์ ให้เสร็จก่อน ถึงจะยื่นใบอนุญาต ซึ่งบริษัทจะดำเนินการตามกฎระเบียบและขั้นตอนของภาครัฐ 

162453987044

ทั้งนี้บริษัทได้มีการจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับกัญชง  โดยจะมีพันธมิตรซึ่งเป็นผู้ทำธุรกิจปลายน้ำ ในการนำสาร CBD มาผลิตเป็นสินค้า เช่นอาหาร ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ฯลฯ โดยบริษัทจะเป็นผู้ถือใหญ่

“ผมไม่ได้มองว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ของ STPIเป็นใคร ซึ่งในบอร์ดก็คุยเรื่องนี้เยอะ เราทำตามข้อกำหนด ซึ่งอ.ย บอกว่าจะใช้เวลาในการส่งข้อมูลเอกสารต่างๆ 120 วัน และจะใช้เวลาพิจารณาอีก 15 วัน รวม135 วัน เราก็จะใช้เต็มที่  ไม่ได้ขออะไรเป็นพิเศษและผู้ถือหุ้นใหญ่ นั้น ไม่ได้เข้ามาบริหาร เราทำด้วยความโปร่งใส ทำตามนโยบายของรัฐบาล”

สำหรับเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินลงทุนธุรกิจด้านกัญชงเป็นหลัก 100 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องการซื้อเครื่องจักรในการสกัดสาร CBD ส่วนเมล็ดกัญชงที่จะนำมาปลูกนั้นบริษัทอยู่ระหว่างพิจารณา ซึ่งมีแนวโน้มจะซื้อจากผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าเมล็ดกัญชง ซึ่งรายละเอียดที่ชัดเจนจะสามารถเปิดเผยได้ในช่วงปลายเดือนหน้า

นายชำนิ กล่าวว่า นอกจากธุรกิจกัญชงแล้ว ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจใหม่หลายธุรกิจ เพื่อหนุนให้บริษัทมีผลการดำเนินงานมากขึ้น จากที่ธุรกิจหลัก การแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก ผลิตและติดตั้งโครงสร้างเหล็ก (Structural Steel) งานประกอบและเชื่อมท่อ (Piping) และงานประกอบโรงงานสำเร็จรูป (Module) สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น อุตสาหกรรมพลังงานและน้ำมัน ปิโตรเคมีไฟฟ้าฯลฯได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19  ซึ่งธุรกิจใหม่ที่บริษัทจะนำเน้น ธุรกิจที่รัฐบาลให้การสนับสนุน และธุรกิจที่เป็นที่ต้องการของตลาด 

 อนึ่ง  STPI มีผู้ถือหุ้นใหญ่เครือ ครอบครัวชาญวีระกูล   ซึ่งผู้ถือหุ้นอันดับ1 บลจ.เกียรตินาคินภัทร(รับโอนจากรมต.อนุทิน ชาญวีรกูลเพื่อการจัดการทรัพย์สินของรมต.ฯ)