เซ็นทรัลรีเทลบูม‘ภูเก็ต กรีน-เซ็นทรัลกรีน’ฟื้นลงทุนเคลื่อนเศรษฐกิจ

เซ็นทรัลรีเทลบูม‘ภูเก็ต กรีน-เซ็นทรัลกรีน’ฟื้นลงทุนเคลื่อนเศรษฐกิจ

นับถอยหลัง "แซนด์บ็อกซ์ ภูเก็ต" นำร่อง 120 วัน เปิดประเทศเป็นทั้งสัญญาณบวก และความท้าทายไปพร้อมๆ กัน ภายใต้เป้าหมายฝ่าวิกฤติโควิด พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ขับเคลื่อนประเทศไทย

การที่นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกมาประกาศเคาท์ดาวน์ (Countdown) 120 วัน เปิดประเทศ ถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญ และแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความพร้อมทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอการอัดฉีดมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทย รวมถึงการควบคุมดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพหลังจากการเปิดเมืองเปิดประเทศ”

ญนน์ โภคทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกในไทยและต่างประเทศ กล่าวย้ำว่า แผนการเคาท์ดาวน์เปิดประเทศในครั้งนี้ ถือเป็น วัคซีนสำคัญที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ที่จะช่วยผลักดันภารกิจนี้ให้เกิดขึ้นได้จริง ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความหวัง รวมถึงต้องช่วยกันบริหารความเสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดให้อยู่ในวงจำกัด

เพราะสถานการณ์ในขณะนี้ยังมีความไม่แน่นอนสูง และมีบทเรียนจากหลายประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว แต่ต้องกลับมาถูกล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจหยุดชะงักอีกครั้ง! เนื่องจากการระบาดระลอกใหม่ 

นอกจากนี้ด้วยข้อจำกัดสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย และต้องกลับไปกักตัวที่ประเทศของตนเอง อาจทำให้นักท่องเที่ยว และนักลงทุนหลายคนตัดสินใจชะลอการเดินทางในช่วงนี้ ดังนั้นอยากให้ภาครัฐพิจารณาเพิ่มเติมเรื่องการเปิด Travel Bubble เพื่อช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยว และนักลงทุนต่างชาติเดินทางมาเที่ยว และทำธุรกิจที่ประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

เราเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือร่วมใจกันของทุกภาคส่วนในการช่วยกันระมัดระวัง การ์ดอย่าตก ป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกที่ 4 จะช่วยให้การเปิดประเทศเป็นไปอย่างปลอดภัย และสามารถพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างแท้จริง”

ทั้งนี้ ฤกษ์เปิดประเทศของไทยนำร่องด้วยการเปิด “เมืองท่องเที่ยวระดับโกลบอล” อย่างภูเก็ต ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเป็นอย่างดี  ภายใต้โครงการ ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” วันที่ 1 ก.ค. นี้ โดย เซ็นทรัล รีเทล วางยุทธศาสตร์ "New Central New Phuket" สอดรับนโยบายภาครัฐด้วยคอนเซปต์ เซ็นทรัลกรีน” (Central Green) ที่จะถูกนำไปใช้กับทุกธุรกิจในเครือของเซ็นทรัล รีเทล ในจังหวัดภูเก็ต อาทิ “ท็อปส์กรีน” (Tops Green) มีการจัดคอร์เนอร์ Healthiful จำหน่ายสินค้าเฮลท์ตี้ และสินค้าออร์แกนิก พร้อมโซน Refill Station ที่ช่วยลดขยะพลาสติก ตอบโจทย์เทรนด์ผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ และการดูแลสภาพแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ญนน์ ขยายความ เซ็นทรัลกรีน”  ว่าหมายถึง การที่ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ในความสะอาด และปลอดภัยของทุกธุรกิจในเครือ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ ร้านค้า และการบริการทุกๆ รูปแบบ จนถึง ออมนิแชแนล” ที่มีมาตรการสุขอนามัยที่เคร่งครัด และยังคงยกการ์ดสูงอย่างต่อเนื่อง แม้พนักงาน และลูกค้าจะได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม

นอกจากนี้ เซ็นทรัล รีเทล ยังร่วมกับโครงการ “ฮักไทย ฮักภูเก็ต” (Hug Thais Hug Phuket) สนับสนุนการกิน-เที่ยว-ใช้ สินค้าไทย โดยผู้ประกอบการไทย เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย และเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัด พร้อมทั้งช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกจังหวัดด้วย ผ่านโครงการ “ของดีทั่วไทย @ ภูเก็ต” ยกทัพสินค้าของดี ของเด็ดจากทุกภูมิภาคมาไว้ที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า เพื่อช่วยกระตุ้นการบริโภคสินค้าในประเทศ ฟื้นฟูเศรษฐกิจในภาพรวม และตอบโจทย์ลูกค้าที่มาท่องเที่ยวภูเก็ต เหมือนมาเที่ยวที่เดียว แต่ได้ ช้อปของดี ของอร่อยจากทั่วประเทศ 

การเปิดประเทศ ที่จะนำร่องด้วยโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ในเดือน ก.ค.นี้ เราคาดว่าจะได้เห็นภูเก็ตในมุมใหม่ (New Phuket) ภายใต้คอนเซปต์ “ภูเก็ตกรีน” (Phuket Green) ยกระดับภูเก็ตให้เป็นเมืองปลอดภัย และปลอดเชื้อไวรัสโควิด-19 

พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัด ด้วยการปรับทัศนียภาพเมืองให้สวยงาม สะอาด และน่าอยู่ รวมถึงมีการเปิดรับภาคธุรกิจ การค้า และการลงทุนอีกด้วย เพื่อสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ นักลงทุน และชาวภูเก็ตเอง

โดยโมเดล “ภูเก็ตกรีน” นี้ จะเป็นโมเดลต้นแบบที่ต่อยอดไปยังจังหวัดอื่นๆ เพื่อที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และทำให้ภาคการท่องเที่ยวกลับมาเข้มแข็ง ยั่งยืน และปลอดภัยอีกครั้ง

อย่างไรก็ดี เซ็นทรัล รีเทล ยังได้เตรียมความพร้อมรับโอกาสจากการคลายล็อกธุรกิจ! โดยจะเพิ่มสปีดด้านนวัตกรรมและการให้บริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที เหนือคู่แข่ง!!

แม้ช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีการล็อกดาวน์ แต่จะเห็นว่า...ความต้องการของลูกค้ายังคงมีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งธุรกิจของเราจึงไม่เคยถูกล็อก และมีการปรับตัวมาโดยตลอด ด้วยบทบาทของเซ็นทรัล รีเทล คือ การเป็นศูนย์กลางชีวิตของผู้คน (Central to Life) ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์”

ดังนั้น  เมื่อลูกค้าต้องอยู่บ้านเป็นหลัก และไม่สามารถเดินทางมาหาเราได้ในช่วงล็อกดาวน์ ธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัล รีเทล ใช้แพลตฟอร์ม ออมนิแชแนล” เป็นอาวุธหลักในการเข้าถึงลูกค้าแบบไร้รอยต่อ!  ไม่ว่าจะเป็น CENTRAL โมบายล์แพลตฟอร์ม ที่รวบรวมสินค้าในเครือเซ็นทรัล รีเทล มาไว้ในที่เดียว, Tops Online และบริการออมนิแชแนลต่างๆ อาทิ Chat & Shop, Call & Shop, Click & Collect, Drive Thru และบริการ Quick Commerce ที่ส่งตรงสินค้าถึงมือลูกค้าภายในหนึ่งชั่วโมง ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจร เสมือนยกเซ็นทรัลไปหาลูกค้าถึงบ้าน (Central at your home) 

ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่า เซ็นทรัล รีเทล มีความพร้อมที่จะให้บริการลูกค้าในทุกๆ วัน และทุกๆ สถานการณ์ แม้จะมีนโยบายการคลายล็อกธุรกิจจากภาครัฐ แต่เซ็นทรัล รีเทล ก็จะยังคงเสริมความแข็งแกร่งของแพลตฟอร์มออมนิแชแนลอย่างต่อเนื่อง ผ่านการนำเสนอสินค้า และบริการใหม่ๆ รวมถึงขยายบริการ “Personal shopper” สร้างประสบการณ์ชอปปิงที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยในด้านสุขอนามัย และความปลอดภัยทุกครั้งที่ใช้บริการเป็นอีกหัวใจในการขับเคลื่อนธุรกิจและประเทศไทยโดยไม่สะดุด!