เปิดภาพถ่ายดาวเทียม ‘มลพิษทางอากาศ’ ทั่วโลกสูงหลังล็อกดาวน์

เปิดภาพถ่ายดาวเทียม ‘มลพิษทางอากาศ’ ทั่วโลกสูงหลังล็อกดาวน์

กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดรายงานผลศึกษา ชี้ ระดับมลพิษไนโตรเจนออกไซด์เพิ่มสูงขึ้นในหลายเมืองทั่วโลก รอบ 1 ปี หลังล็อกดาวน์โควิด -19

ดร.ไอแดน ฟาร์โรว์ นักวิทยาศาสตร์ด้านมลพิษทางอากาศ กรีนพีซสากล กล่าวว่า การศึกษาระดับมลพิษไนโตรเจนออกไซด์ทั่วโลก ชี้ให้เห็นว่า ตราบเท่าที่ระบบพลังงานและการคมนาคมยังคงพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล มลพิษทางอากาศจะยังคงเป็นวิกฤติใหญ่ด้านสาธารณสุข ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 คุณภาพอากาศที่ดีขึ้นเป็นเพียงผลพลอยได้ชั่วคราวจากการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ เราต้องหาทางออกที่ทำได้จริงในระยะยาวเพื่อช่วยให้เรามีอากาศสะอาดไว้หายใจ ไม่ว่าจะไปที่ไหนในเมืองก็ตาม การใช้พลังงานลม แสงอาทิตย์และระบบคมนาคมทางเลือกจากระบบพลังงานหมุนเวียน คุ้มทุนกว่าการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เราเรียกร้องให้รัฐบาลลงมือทำในทันที

การวิเคราะห์โดยพิจารณาปัจจัยด้านสภาพอากาศ (Weather Correction analysis) ยืนยันว่าการลดลงของมลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ในปี 2563 และการกลับมาเพิ่มขึ้นในปี 2564 มาจากการเปลี่ยนแปลงของการปล่อยมลพิษทางอากาศเป็นหลักเหลัก ในขณะที่ปัจจัยทางสภาพอากาศเป็นส่วนเสริม

แม้มลพิษทางอากาศในช่วงต้นปี 2563 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ความเข้มข้นของมลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ในเมืองต่าง ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร และกรุงจาการ์ตา ได้กลับสู่ระดับเดิมก่อนการระบาดของโควิด-19 หลังการล็อกดาวน์ครั้งแรก

แม้ว่าจะพบการกลับมาของมลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ในทุกเมืองทั่วโลก มีบางเมือง เช่น ลอสแอนเจลิส อู่ฮั่น แม้จะพบมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนเมษายน 2564 แต่ยังเพิ่มน้อยกว่าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19

162341150423

ข้อค้นพบจากการศึกษาจากการวิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียม พบว่า มลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ลดลงอย่างมากในหลายพื้นที่ทั่วโลกในช่วงการล็อกดาวน์รอบแรกเมื่อต้นปี 2563 หากเทียบกับปีก่อนหน้านี้ 

1 ปีภายหลังมาตรการรล็อกดาวน์รอบแรกจากวิกฤติโควิด-19 มลพิษไนโตรเจนออกไซด์กลับมาเพิ่มสูงขึ้นในพื้นที่ทำการศึกษาแม้ว่าจะพิจารณาถึงปัจจัยสภาพอากาศแล้ว ผลที่ได้ยังสอดคล้องกัน

จังหวัดเคาเต็ง ซึ่งเป็นที่ตั้งกรุงโจฮันเนสเบิร์ก เมืองหลวงของแอฟริกาใต้ มลพิษทางอากาศมีระดับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหากเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 แต่ระดับมลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ในช่วงเดือนเมษายน 2563 ลดลงราว30% แต่ช่วงปี 2564 ในเดือนเดียวกันนั้นกลับพบว่า มลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์กลับมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนการระบาดครั้งใหญ่ถึง 47%

ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ถูกปล่อยสู่บรรยากาศเมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้ ซึ่งรวมถึงยานยนต์ การผลิตไฟฟ้าและอุตสาหกรรม เราสามารถลดการปล่อยมลพิษทางอากาศดังกล่าวลงได้โดยขยายระบบพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งการลงทุนในระบบขนส่งมวลชนสาธารณะและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง

บอนแดน อันดรียานู ผู้ประสานงานรณรงค์ กรีนพีซ อินโดนีเซีย กล่าวว่า ขณะที่รัฐบาลพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจท่ามกลางวิกฤตโรคระบาด นี่คือโอกาสสำคัญที่รัฐบาลจะผลักดันการลงทุนระบบพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม พลังงานแสงอาทิตย์ และสนับสนุนระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ใช้พลังงานหมุนเวียนและเข้าถึงได้ ในขณะเดียวกัน มีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในช่วงล็อกดาวน์ เช่น การลดการเดินทางทางอากาศ การใช้จักรยานเพิ่มขึ้น และมีการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งหากยังดำเนินต่อไปหลังจากพ้นวิกฤตโรคระบาด ความเข้มข้นของมลพิษทางอากาศก็จะลดลง” รายงานระบุสรุปผลการศึกษา

สอดคล้องกับผลการศึกษาที่ผ่านมา หลายพื้นที่ทั่วโลกมีมลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์ลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนหน้า

หนึ่งปีภายหลังมาตรการล็อกดาวน์โควิด -19 ครั้งแรก พบว่ามลพิษไนโตรเจนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ของการศึกษา ผลที่ได้สอดคล้องกันแม้ว่าจะนำเอาปัจจัยทางสภาพอากาศมาพิจารณา

อย่างไรก็ตาม มลพิษทางอากาศไม่ได้กลับมาเพิ่มขึ้นเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ทำการการศึกษา ส่วนหนึ่งอาจเพราะมาตรการควบคุมโรคระบาดยังคงมีผลบังคับใช้ในหลายพื้นที่ทั่วโลก