'ไพบูลย์' ค้าน 'ป.ป.ช.' ชี้มูล 'ส.ส.เสียบบัตรแทน' เหตุ อำนวยความยุติธรรมไม่เต็มที่

'ไพบูลย์' ค้าน 'ป.ป.ช.' ชี้มูล 'ส.ส.เสียบบัตรแทน' เหตุ อำนวยความยุติธรรมไม่เต็มที่

รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ชี้ทางรอด "ลูกพรรค" หลัง ป.ป.ช. เสนอ อัยการยื่นฟ้องอาญา คดีเสียบบัตรแทน ต้องมีหลักฐาน ให้ใครออกเสียงแทน-ใครเป็นผู้กดคะแนนแทน ระหว่างไม่อยู่ในห้องประชุม

        นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยต่อกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ธนิกานต์ พรพงษาโรจน์ ในความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และเตรียมส่งฟ้องคดีอาญา รวมถึงดำเนินส่งศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีผิดจริยธรรม ส.ส. เนื่องจากเป็นฐานมูลฟ้องเดียวกันทั้ง 2 คดี ทั้งที่ตามกฎหมายไม่ควรใช้ข้อมูลหรือฐานรายละเอียดเดียวกัน เพราะจะขัดต่อหลักนิติธรรม ที่ถือว่าผู้ที่ฟ้องคดีอาญาเมื่อยังไม่ถูกตัดสิน ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ขณะที่การฟ้องผิดจริยธรรมนั้น ตนมองว่า ป.ป.ช. ไม่ควรชี้ขาดด้วยตนเอง แต่ควรส่งให้หน่วยงานต้นสังกัด คือ สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบขั้นต้น ก่อนจะนำรายละเอียดของการตรวจสอบของหน่วยงาน ประกอบการพิจารณา และตัดสินของ ป.ป.ช. อย่างไรก็ดีในประเด็นที่ตนไม่เห็นด้วยนั้นเบื้องต้นจะขอพิจารณาอีกครั้งว่าจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง แต่ขั้นต้นต้องการฟ้องต่อสังคมให้ร่วมตรวจสอบด้วย

 
        นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่า แม้รัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรม ส.ส. แต่ต้องอำนวยความยุติธรรมกับผู้ถูกร้องด้วย รวมถึงต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดเป็นผู้ตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ในคดีของน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่อยู่ระหว่างหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะศาลฏีการับคดีสอบจริยธรรมไว้พิจารณา ซึ่ง ป.ป.ช. ฟ้องคดีอาญา และขณะนี้กระบวนการยุติธรรมอยู่กระบวนการพิจารณาและต่อสู้คดี แต่ศาลฎีการับเรื่องไว้ตรวจสอบเช่นกัน หากกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจมีผลต่อการตรวจสอบคดีอาญา ที่ตามหลักนิติธรรมต้องต่อสู้กันในชั้นอุทธรณ์ และฎีกาอีก
 
         นายไพบูลย์ กล่าวด้วยว่าสำหรับการส่งอัยการให้ดำเนินการสั่งฟ้องคดีอาญาต่อศาลนั้น ตนมองว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอจะดำเนินการได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานหรือพยานที่ชี้ให้เห็นว่า น.ส.ธนิกานต์ เป็นผู้มอบหมายบุคคลให้ออกเสียงลงคะแนนแทน อีกทั้งมีข้อมูลเพียงระหว่างการลงคะแนน น.ส.ธนิกานต์ ร่วมเวทีเสวนาภายนอก แต่กลับพบการออกเสียงลงคะแนนของน.ส.ธนิกานต์เท่านั้นดังนั้นหากจะดำเนินคดีได้ ต้องหาหลักฐานให้ได้ว่า บุคคลใดลงคะแนนแทน หรือ น.ส.ธนิกานต์มอบหมายให้ใครลงคะแนนแทน.