สธ.ส่งคกก.ติดตามเหตุรพ.เลื่อนฉีด'วัคซีนโควิด-19'

สธ.ส่งคกก.ติดตามเหตุรพ.เลื่อนฉีด'วัคซีนโควิด-19'

สธ.ส่งคกก.ติดตามข้อมูลหาเหตุรพ.เลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19 'อนุทิน'ลั่นนายกฯประกาศวาระแห่งชาติ ก่อนผอ.ตัดสินใจต้องรายงานสสจ.-ผู้ตรวจฯ ไม่ใช่หยุดฉีดทันที เตรียมส่งซิโนแวคลงพื้นที่อีก 7.5 แสนโดส ส่วนแอสตร้าฯเพิ่มอีกที 14 มิ.ย.

เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงกรณีการเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด19 ว่า ไม่มีเลื่อน ทุกโรงพยาบาลได้รับการจัดสรรวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้ โดนศบค.และสธ.เห็นชอบ จุดที่จะรับวัคซีนก็เห็นชอบ เมื่อเป็นแบบนี้ไม่มีการเลื่อน ในส่วนของสธ.ไม่มีการเลื่อนแน่นอน แต่หากในส่วนของผู้ที่รับวัคซีนไปในลักษณะองค์กร หรือหน่วยงานแล้วไปจ้างที่ไหนฉีดแล้วเลื่อนก็เกินความสามารถของเรา

“ผมถามท่านปลัดกระทรวงฯ ท่านอธิบดีกรมควบคุมโรคว่า จะเปิดฉีดวันที่ 7 มิ.ย.วันเดียวหรือไม่ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ต้องทำความเข้าใจกับหน่วยบริการว่า เรามีวัคซีนเท่านี้ในแต่ละสัปดาห์ ให้วางแผนการฉีดดีๆ อย่าเพิ่งฉีดจนหมด ต้องวางแผนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 โดยต้องวางแผนจำนวนที่จะฉีดให้ต่อเนื่อง แต่ละแห่งมีความสามารถในการฉีด เพียงแต่ของที่จะมามีจำกัดในแต่ละสัปดาห์ เพราะเป็นเรื่องของซัพพลายด์ ก็ต้องบริหารให้เพียงพอ “ นายอนุทิน กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีข่าวว่า รพ.ที่เลื่อนฉีดวัคซีนจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นการติดตามถามว่าทำไมเลื่อน เพราะปกติหน่วยงานในสังกัดสธ. เมื่อสั่งการชัดเจนก็มีการปฏิบัติตาม แต่หากมีคนเลื่อนก็ต้องถามว่าคำสั่งปลัดสธ.ต้องมีความหมาย ต้องศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ เมื่อมีการเลื่อนก็ต้องถามว่าเพราะอะไร เพราะก่อนเลื่อนต้องสอบถามทางนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ หากจะมีการเลื่อน ก่อนที่ตะตัดสินใจก็ต้องมีรายงานก่อน


"เรื่องวัคซีนโควิด-19 นายกฯ ให้เป็นวาระแห่งชาติ ดังนั้น ข้าราชการ หรือการเมืองต้องให้ความสำคัญสูงสุด เมื่อมีปัญหาต้องแจ้งจะได้แก้ปัญหา ไม่ใช่หยุด เพราะถ้าหยุดคนเดือดร้อนคือ ประชาชน หากไปประกาศเลื่อน คนจะมาถึงไม่มีวัคซีนฉีด จะทำอย่างไร และจะมาบอกว่า มีไม่พอได้อย่างไร ในเมื่อกรมควบคุมโรคส่งครบแล้ว ตอนมีกว่า 2 แสนโดสก็ส่งตามสัดส่วน และเมื่อ 1.8 ล้านโดสก็ส่งตามสัดส่วน มีการคำนวณชัดเจน"นายอนุทินกล่าว

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ผู้ตรวจราชการฯ ที่รับผิดชอบเขตที่มีปัญหา รายงานกลับมาว่า ผู้อำนวยการท่านนี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งตนบอกว่า ไม่ใช่คำตอบ เพราะไม่ว่ามีความเป็นตัวตนอย่างไรก็ตาม การเป็นข้าราชการต้องปฏิบัติตามคำสั่งตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา และการบริการวัคซีนแก่ประชาชนภายใต้วาระแห่งชาติของรัฐบาลก็เหมือนคำสั่ง จึงต้องใช้ดุลยพินิจอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่ใช้ดุลยพินิจว่า ให้เลื่อนฉีด

ผู้สื่อข่าวถามว่าผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรังบางท่านที่ลงทะเบียน “หมอพร้อม” กังวลว่าจะไม่ได้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้า เพราะมีการจัดสรรไปให้พื้นที่กทม.จำนวนมาก นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้บอกว่าแอสตร้าฯหรือซิโนแวคมากกว่า วัคซีนที่รัฐบาลจัดสรรให้ประชาชนมีประสิทธิผลเท่ากันหมด การจัดสรรให้ใคร เมื่อไหร่ อย่างไรอยู่ที่ผอ.สถานพยาบาลแต่ละแห่ง

กรณีลงไปตรวจสอบติดตามในรพ.ที่เลื่อน ต้องทำเป็นหนังสือให้ชี้แจงหรือไม่ นพ.เกียรติภูมิวงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า
ไม่มี


นพ.เกียรติภูมิ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค กำลังกระจายวัคซีนซิโนแวคออกไปจังหวัดต่างๆ 7.5 แสนโดส ขณะที่วัคซีนซิโนแวค อีก 5 แสนโดส ผ่านการตรวจรับรองรุ่นการผลิต(Lot release) จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ซึ่งจะนำเข้าระบบจัดสรรวัคซีน หลังจากนั้นก็จะกระจายไปจังหวัดต่างๆ เพิ่มเติม และ ในวันที่ 10 มิ.ย. จะมีวัคซีนซิโนแวค เข้ามาในประเทศอีก 1 ล้านโดส และในวันที่ 14 มิ.ย. ก็จะเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข้ามาเพิ่มอีกแต่ยังไม่ระบุจำนวนที่ชัดเจน ทั้งนี้ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน เพื่อกระจายวัคซีนในลำดับต่อไป