NCAP ตั้งบริษัทย่อย 'เน็คซ์ มันนี่'บุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล

NCAP ตั้งบริษัทย่อย 'เน็คซ์ มันนี่'บุกตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล

บอร์ด NCAP ไฟเขียวตั้งบริษัทย่อย " เน็คซ์ มันนี่" ลุยตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมออกวอร์แรนท์จัดสรรให้ผู้บริหารของบริษัทฟรี 38 ล้านหน่วย อายุ5ปี ราคาใช้สิทธิ16 บาทต่อหุ้น ทำให้ต้องเพิ่มทุนรองรับการใช้สิทธิดังกล่าว

บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)หรือ NCAP  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการแต่งตั้ง นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา ให้ดํารงตําแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) มีผลตั้งแต่ วันที่ 7 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป  เนื่องจากท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และเชี่ยวชาญในการบริหารธุรกิจด้านการเงินและเทคโนโลยี เข้ามาเสริมทัพแผนการขยายธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัท ภายใต้ "บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ จากเดิมบริษัทฯ แข็งแกร่งในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ภายใต้การนำทัพของ นายสมชัย ลิมป์พัฒนสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจัดตั้งบริษัทย่อย ภายใต้ชื่อ "บริษัท เน็คซ์ มันนี่ จำกัด" ด้วยทุนจดทะเบียน 50,000,000 บาท แบ่งออกเป็นจำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท เพื่อประกอบกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคล โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท เน็คซ์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 80% นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา 10% และ บุคคลธรรมดารายอื่น 10% และมีกรรมการประกอบด้วย นางสาวสุธิดา มงคลสุธี นางสาววาสนา พงศ์แสงลึก นายปุณณมาศ วิจิตรกุลวงศา

สำหรับเงินทุนที่บริษัทใช้ในการลงทุนครั้งนี้ มาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินการซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องและการดำเนินการของบริษัท โดยคาดประโยชน์ที่ได้รับ เพื่อขยายธุรกิจ และเพิ่มช่องทางการรับรู้รายได้และกำไร โดยคาดว่าจะดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 3/2564

นอกจากนี้ มีมติอนุมัติการออกใบสําคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทเพื่อเสนอจัดสรรให้แก่ผู้บริหาร (รวมถึงผู้บริหารที่ดํารงตําแหน่งกรรมการของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย) และ/หรือ พนักงานของบริษัทและ/หรือบริษัทย่อย ครั้งที่ 1 ("NCAP - ESOP W1”) จํานวนไม่เกิน 38,000,000 หน่วย อายุไม่ เกิน 5 ปี โดยไม่คิดมูลค่า โดยมีราคาใช้สิทธิที่หุ้นละ 16 บาท หากมีการใช้สิทธิเต็มจำนวนบริษัทจะได้เงินจำนวน 608 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดภายในกิจการและช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางฐานะการเงินของบริษัท บริษัทจะมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดตามที่คณะกรรมการบริษัทจะเห็นสมควร

รวมทั้ง การเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจํานวน 19,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 450,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 469,000,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่ม ทุนจํานวน 38,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิ NCAP - ESOP W1 และการแก้ไข หนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 เรื่องทุนจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทดังกล่าว