‘ศบศ.’ เคาะ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ 1 ก.ค. ต่างชาติไม่ต้องกักตัวครบ 14 วัน เที่ยวนอกพื้นที่ได้

 ‘ศบศ.’ เคาะ ‘ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์’ 1 ก.ค.  ต่างชาติไม่ต้องกักตัวครบ 14 วัน เที่ยวนอกพื้นที่ได้

ศบศ.ไฟเขียวเปิดพื้นที่ "ภูเก็ตแซนด์บ็อก" รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1 ก.ค. ให้เที่ยวในภูเก็ตครบ14วันก่อนเดินทางไปจังหวัดอื่นได้ ส่วน 10 พื้นที่ที่ขอเปิดพื้นที่ท่องเที่ยว 1 ก.ค.เหมือนกันให้ประเมินภูเก็ตแซนด์บ็อก 1 - 2 เดือนก่อนค่อยพิจารณาอีกที

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ครั้งที่ 2/2564 วันนี้ (4 มิ.ย.) ว่าที่ประชุมเห็นชอบให้เปิดพื้นที่จังหวัดภูเก็ตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีน และมีการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางแล้วมีผลเป็นลบ เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตามนโยบายภูเก็ตแซนด์บ็อก โดยเริ่มต้นวันที่ 1 ก.ค.นี้ 

โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาสามารถเดินทางท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตได้โดยไม่ต้องกักตัว และเมื่อท่องเที่ยวในภูเก็ตครบ 14 วันแล้วสามารถเดินทางไปยังจังหวัดอื่นๆได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยแปลงเงื่อนไขจากเดิมที่ให้ท่องเที่ยวในภูเก็ต 7 วัน และไปยังจังหวัดอื่นๆได้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขกังวลการแพร่ระบาดของโควิดในหลายประเทศทั่วโลก

สำหรับแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจากประเทศที่มี
ความเสี่ยงต่ำและปานกลางของจังหวัดภูเก็ต (Phuket Sandbox) มีข้อปฏิบัติดังนี้ 

1.เปิดรับเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนครบโดสตามเกณฑ์ของวัคซีนแต่ละชนิด มีระยะเวลาการฉีดมากกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 1 ปีและเป็นผู้เดินทางจากกลุ่มประเทศต้นทางที่มีความเสี่ยงต่ำ – ปานกลาง ตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข

2.กำหนดให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกับผู้ปกครองที่ฉีดวัคซีนแล้วเดินทางเข้าได้
ในขณะที่เด็กอายุระหว่าง 6– 18 ปี จะต้องได้รับการตรวจเชื้อเมื่อเดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต

3.มีเอกสารรับรองการฉีดจากประเทศต้นทาง โดยวัคซีนจะต้องขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองโดย WHO

4.มีการติดตั้งแอบพลิเคชันแจ้งเตือน

5.พำนักในโรงแรมที่พักที่ผ่านมาตรฐาน SHA+ ในเวลา 14 คืน และภายหลังการพำนักตามระยะเวลาที่กำหนดสามารถเดินทางไปยังพื้นที่อื่นในประเทศไทยได้

และ 6.รายงานตัวและรับการตรวจเชื้อโควิด-19 ตามมาตรการควบคุมโรคของกระทรวงสาธารณสุข และสามารถทำกิจกรรมท่องเที่ยวได้ภายใต้มาตรการป้องกันตามมาตรฐาน DMHTTA

ขณะเดียวกัน มีการดำเนินการเตรียมพื้นที่รองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวภายใต้แผนการพัฒนาเมืองภูเก็ต (Better Phuket Initiatives) อาทิ การปรับปรุงภูมิทัศน์ โครงการสร้างคุณค่าและประสบการณ์โดย การท่องเที่ยววิธีชุมชนเพื่อให้ชาวบ้านได้รับผลประโยชน์  การพัฒนาทักษะให้กับบุคลากรทางการท่องเที่ยว และ การดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่ท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ ททท. นำเสนอรายละเอียดของแผนการดำเนินงานต่อศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และคณะรัฐมนตรี
เพื่อพิจารณาต่อไป  

สำหรับข้อกำหนดเรื่องเอกสารและข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามายังภูเก็ตนั้นให้เป็นที่ประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ซึ่งเมื่อเห็นชอบจะผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามขั้นตอนก่อไป 

ส่วนข้อเสนอของจังหวัดอื่นๆ 10 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะพีพี จ.กระบี่ และจ.พังงา ทางศบศ.ยังไม่อนุมัติให้เปิดรับนักท่องเที่ยวโดยขอให้ประเมินสถานการณ์ และรูปแบบจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกก่อน 1 - 2 เดือน ค่อยพิจารณาอีกครั้ง  

อย่างไรก็ตามในส่วนของพื้นที่ที่มีการเสนอขอเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.2564 ได้แก่ พื้นที่พัทยา พื้นที่หัวหิน พื้นที่จ.เพชรบุรี พื้นที่จ.บุรีรัมย์ และ พื้นที่ กทม.ที่ประชุมเห็นชอบตามข้อเสนอโดยให้พิจารณาสถานการณ์เป็นระยะๆ