พาณิชย์เดินหน้าพาณิชย์ลดราคา ถึงคิว ฟู้ดเดลิเวอร๊่  ลดค่าจีพี25%  อาหารสูงสุด 60%

พาณิชย์เดินหน้าพาณิชย์ลดราคา ถึงคิว ฟู้ดเดลิเวอร๊่  ลดค่าจีพี25%  อาหารสูงสุด 60%

พาณิชย์เปิดตัว โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” Lot 11 Food Delivery ลดค่าจีพีเหลือ 25%  อาหารสูงสุด 60%  ดีเดย์ตั้งแต่ 1-30 มิ.ย.นี้ คาดแพลตฟอร์มสูญรายได้ 250-350 ล้าน พร้อมจัด 2 กิจกรรมช่วยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการ

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเปิดโครงการ “พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน” Lot 11 Food Delivery   ว่า ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมกัน มีแพลตฟอร์มทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม ที่ให้บริการส่งอาหาร (ฟู้ด เดลิเวอรี) และตัวแทนร้านอาหารทั่วประเทศ เช่น สมาคมการค้าธุรกิจร้านอาหาร สมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมร้านอาหารไทยและสตรีทฟู้ด สมาคมร้านอาหารและบันเทิงเชียงใหม่ ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหาร เป็นต้น และผู้แทนสถาบันการเงิน 6 แห่ง ได้แก่ 1.SME D Bank 2.ธนาคารกรุงไทย 3.ธนาคารออมสิน 4.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 5.ธ.ก.ส. และ 6.บสย. เพื่อให้ความช่วยเหลือร้านอาหารที่ขายอาหารผ่านแพลตฟอร์ม และกลุ่มผู้บริโภคที่ซื้ออาหารผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ 
         
สำหรับการช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร นั้นจะมีการลดค่า GP ที่แพลตฟอร์มคิดกับร้านอาหารจากเฉลี่ย 25-35% ลงมาเหลือ 25% มีแพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 5 แพลตฟอร์ม คือ 1.Robinhood 2.foodpanda 3.Grab 4.Gojek และ 5.Lineman ลดค่า GP เหลือ 25% ในภาพรวม ยกเว้น Robinhood ไม่คิดค่า GP และ foodpanda ไม่คิดค่า GP สำหรับร้านใหม่

162218543243

ในส่วนของผู้บริโภคมี 2 ส่วน 1.ลดราคาอาหารที่ขายผ่านแพลตฟอร์มทั้ง 5 แพลตฟอร์มสูงสุด 60% และจะลดค่าขนส่ง 4 แพลตฟอร์ม ใน 3-5 กิโลเมตรแรก ลดสูงสุดจาก 40 บาทเหลือ 0 บาท ประกอบด้วย 1.Robinhood 2.foodpanda 3.Grab และ 4.Gojek

ทั้งนี้ จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1-30 มิ.ย.2564 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล สำหรับค่า GP ส่วนค่าอาหารจะลดทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการแพลตฟอร์มจะสูญเสียรายได้ 250-350 ล้านบาท และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

นายจุรินทร์   กล่าวว่า  นอกจากนี้ยังจัดโครงการแมตช์ชิ่งเงินกู้ให้กับร้านอาหารทั่วประเทศโดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นตัวกลางช่วยร้านอาหารสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี  ได้รับความร่วมมือจาก 6 สถาบันการเงิน ประกอบด้วย 1.SME D Bank 2.ธนาคารกรุงไทย 3.ธนาคารออมสิน 4.ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย 5.ธ.ก.ส. และ 6.บสย. โดยจัดกิจกรรม 2  กิจกรรม คือ  1.ให้สถาบันการเงินให้ข้อมูลกับร้านอาหารที่สนใจเข้าถึงแหล่งเงินกู้วันที่ 1-6 มิ.ย.2564ในรูปแบบออนไลน์ และต่างจังหวัดจะให้พาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการให้ร้านอาหารที่สนใจสอบถามข้อมูลจากสถาบันการเงิน และ 2.จะมีการจับแมตช์ชิ่งให้ยื่นเรื่องเพื่อขอกู้เงินตามเงื่อนไขทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ ในวันที่ 7-20 มิ.ย. 2564 เพื่อช่วยให้ร้านอาหารในช่วงวิกฤติโควิดได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี

โดยร้านอาหารที่มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในปัจจัยที่จดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยเป็นนิติบุคคลจำนวน 15,967 ร้าน และบุคคลธรรมดา 103,000 ร้าน รวมแล้ว 118,967 ร้าน