'เอไอเอ็ม รีท' เดินหน้าลงทุน 3 โครงการใหม่ ดันกอง AIMIRT แตะหมื่นล้านปีนี้

'เอไอเอ็ม รีท' เดินหน้าลงทุน 3 โครงการใหม่ ดันกอง AIMIRT แตะหมื่นล้านปีนี้

"เอไอเอ็มรีท" พร้อมนำ 3 โครงการใหม่เข้ากอง AIMIRT ครึ่งหลังปีนี้ดันมูลค่ากองทุนแตะหมื่นล้านปีนี้ ชูผลตอบแทนเด่น 8.7-9% อัตราการเช่าเต็ม 100% ในช่วงโควิด 

นายอมร จุฬาลักษณานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ เอไอเอ็ม อินดัสเทรียล โกรท หรือ AIMIRT เปิดเผยว่า ในปีนี้กองทุนเตรียมเข้าลงทุนในทรัพย์สินใหม่ช่วงครึ่งปีหลังนี้เพิ่มเติม จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการทิพย์ (โครงการทิพย์ 5 และ โครงการทิพย์ 8), โครงการเอ็มเอส แวร์เฮ้าส์ และโครงการไทยแทฟฟิต้า มูลค่ารวมไม่เกิน 2,350 ล้านบาท ทำให้ในปีนี้กองทุนมีมูลค่าแตะ 10,000 ล้านบาท ตามเป้าหมาย จากปัจจุบันอยู่ที่ 7,500 ล้านบาท และคาดว่าาอีก 2-3 ปีข้างหน้า เติบโตแตะ 20,000 ล้านบาท

สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมนี้จะทำให้กองAIMIRT มีขนาดใหญ่ขึ้น ด้วยสัดส่วนทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ (Freehold) สูงขึ้นในสัดส่วน60% จากเดิม 50% และการเข้าลงทุนที่มีการกระจายตัวไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพมากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงการลงทุนในด้านทำเลที่ตั้งของทรัพย์สินที่ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และกำไร มั่นใจว่าส่งผลให้อัตราผลตอบแทน กองAIMIRT "ภายหลังการลงทุนเพิ่มแล้วเสร็จคาดว่าจะจ่ายปันผลได้ตามประมาณการณ์ไม่ต่ำกว่า 0.88 บาท และยังคงจ่ายปันผลได้ทุกไตรมาสได้เช่นที่ผ่านมา ถือเป็นทางเลือกลงทุนแทนเงินฝาก

นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทมีทรัพย์สินคุณภาพในประเทศอยู่ในมือรอพิจารณาค่อนข้างมาก ต้องหาจังหวะลงทุนในเวลาที่เหมาะสมและสร้างผลตอบแทนดีที่สุดให้กับผู้ถือหน่วย อีกทั้งยังมีการศึกษาทรัพย์สินในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีศักยภาพในรูปแบบตั้งเป็นกองใหม่

นายธนาเดช โอภาสยานนท์ กรรมการผู้จัดการร่วม บริษัทเอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการกอง AIMIRT ปี 2563 มีรายได้รวมทั้งสิ้น586ล้านบาทเพิ่มขึ้น73.43%และมีกำไรจากการลงทุนสุทธิจำนวน397ล้านบาทเพิ่มขึ้น75.16%จากปีก่อนหน้าคาดว่ารายไดในปีนี้จะเติบโตได้เท่าตัวเช่นเดียวกัน

ด้วยจุดแข็งของกองAIMIRTทั้งความมีเสถียรภาพของผลประกอบการที่สูงมากโดยถึงแม้ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วนแต่ผลประกอบการของกองAIMIRTยังคงแข็งแรง ทั้งอัตราการเช่าที่ยังอยู่ในระดับ100%นับตั้งแต่กองจัดตั้งและจ่ายปันผลสม่ำเสมอทุกไตรมาส

เชื่อมั่นว่า กองรีทยังมีอัพไซด์ของราคาที่ยังเปิดกว้าง หากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ถือเป็นจังหวะที่ดีเข้าลงทุนรอรับผลตอบแทนระยะกลางถึงยาว แนะนักลงทุนหากรับความเสี่ยงได้มากและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้วสามารถลงทุนได้ถึง 50% ของพอร์ลงทุนแต่หากเป็นนักลงทุนทั่วไป ควรจะมีการลงทุนดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 15-20%ของพอร์ตลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างรายได้จากการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ(Passive Income)