“ธรรมนัส”หลังพ้นบ่วงคดีคุก "อำนาจ-เก้าอี้"ที่เลือกได้

ยิ่งนาทีนี้ “ธรรมนัส” ก็เหมือนเสือติดปีก เตรียมขยับไลน์ ขึ้นสู่เก้าอี้อำนาจในพรรค เตรียมนำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง สร้างผลงานเพื่อปูทางไปสู่เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการที่ “เลือกได้”
มีทั้งเสียงเฮ-เสียงโห่ ภายหลัง “ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย คดี “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รมช.เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งเป็น ส.ส.พะเยา ต้องคดีและจำคุกในประเทศออสเตรเลีย โดย “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยว่าไม่ถือเป็นคำพิพากษาของศาลไทย “ธรรมนัส” จึงไม่หลุดจากเก้าอี้ ส.ส.-รัฐมนตรี
เมื่อ “ธรรมนัส” พ้นบ่วงกรรมที่ตามหลอกหลอนมานาน ยิ่งช่วงนั่งเก้าอี้ รมช.เกษตรฯ ยิ่งโดนสาวไส้อย่างหนัก จน “ฝ่ายค้าน” นำไปเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ กระทั่งนำมาสู่การเข้าชื่อยื่นให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ชี้ขาดคุณสมบัติ
หลังจากนี้ “ธรรมนัส” แทบไม่เหลือชนักติดหลัง เตรียมใส่เกียร์เดินหน้า ปฏิบัติภารกิจที่ “3 ป.” วางเกมเอาไว้ให้เดิน โดยเฉพาะการเจาะฐานเสียงพรรคอื่น โกย ส.ส. เข้าพรรค พปชร.ให้ได้มากที่สุด
จะเห็นว่าการเลือกตั้งซ่อมเกือบทุกครั้งที่ผ่านมา “ธรรมนัส” คือแม่ทัพแนวหน้า ลงพื้นที่ลำปาง ขอนแก่น นครศรีธรรมราช สู้ศึกเลือกซ่อม จน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรค พปชร. มั่นใจว่า หากส่ง “ธรรมนัส” ลงคุมเกม ไม่ต้องกังวลว่าจะแพ้
โดยเฉพาะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช ที่ต้องฟาดฟันกับเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แต่ “ธรรมนัส” สามารถช่วยให้ “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ผู้สมัครของพรรคพปชร.เข้าวินได้
ดังนั้นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รอให้สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น “ประวิตร” เตรียมเรียกประชุมใหญ่พรรค พปชร. เพื่อเปลี่ยนแปลง “กรรมการบริหารพรรคพปชร.” อย่างแน่นอน ซึ่งชื่อของ “ธรรมนัส” คือเต็งจ๋าที่จะมานั่งเก้าอี้เลขาธิการพรรค แทนที่ของ “เสี่ยแฮงค์” อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา “ธรรมนัส” สร้างผลงานเข้าตา “ประวิตร” หลายครั้งหลายครา จนได้รับความไว้ใจให้คุมองคาพยพ ชิงเก้าอี้ “ผู้ว่าฯกทม.” ให้กับ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” อดีต ผบ.ตร.
สนาม กทม.ถือเป็นเดิมพันสำคัญ ที่สะท้อนถึงความนิยมในภาพใหญ่ของรัฐบาล ดังนั้นปัจจัยทุกอย่างทั้งบนดิน ใต้ดิน ต้องทำงานเต็มที่ ชื่อชั้นของ “ธรรมนัส” จึงอาจตอบโจทย์การขับเคี่ยวแบบทุ่มหนัก ไม่กลัวหมดหน้าตัก จนหัวคะแนนใน กทม. เริ่มออกอาการผวา หากกลยุทธ์สุ่มเสี่ยงโดนเช็คบิลภายหลัง
ในส่วนของ “จักรทิพย์” ที่เดินสายกวาดต้อนพวกพ้องทุกวงการเข้าเป็นพวก ออกตัวว่าจะลงสมัครในนามอิสระแน่นอน ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยอมรับเองว่า “ประวิตร” เป็นคนโทรชักชวนให้ลงสนามผู้ว่ากฯ กทม.ครั้งนี้
การจะบอกว่า “จักรทิพย์” และ “ประวิตร” ไม่เกี่ยวข้องกัน คงยากที่ใครจะเชื่อ แต่ถ้าบอกว่า “จักรทิพย์” อยู่ใต้ร่มเงา “ประวิตร” และ “พลังประชารัฐ” คงเป็นอย่างนั้นมากกว่า แถม “ประวิตร” ที่ส่ง “ธรรมนัส” มาช่วย “จักรทิพย์” สู้ศึกสนามผู้ว่าฯกทม.แบบไม่กั๊ก เรียก ส.ส.กทม.-ส.ก. และหัวคะแนนของพลังประชารัฐมาติวเข้มต่อหน้า “ประวิตร” เพื่อให้นายใหญ่มั่นใจ
สิ่งที่น่าจับตาคือเก้าอี้เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่มีแนวโน้มสูงว่า จะมีการเปลี่ยนมาให้ “ธรรมนัส” นั่งนั้นอาจพ่วงมาด้วยบิ๊กดีลคือทำให้ “จักรทิพย์” ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม.และกับการขยับชั้นขึ้นเป็น “รัฐมนตรีว่าการ” หรือไม่ ที่สุดแล้วคนกรุงเทพฯ จะเป็นผู้ชี้ชะตาว่า “ธรรมนัส” จะมีฝีมือพอที่จะดัน “จักรทิพย์” ขึ้นเป็น “ผู้ว่าฯ กทม.” คนต่อไปได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอพิสูจน์กันอีกชอต
แต่ที่แน่ๆ มลทิน “มันคือแป้ง” ที่เหมือนระเบิิดเวลาติดตัว “ธรรมนัส” ได้ถูกถอดสลักออกแล้ว ดังนั้นเส้นทางการเมืองของ “ธรรมนัส” ต่อจากนี้ไปหนีไม่พ้นการรวบรวม “ส.ส.” เข้ามาอยู่ในค่าย “พรหมเผ่า” ให้ได้มากที่สุด
พื้นที่ภาคเหนือหลายจังหวัด “ธรรมนัส” สร้างฐานเสียงเอาไว้ค่อนข้างเข้มแข็ง แม้จะหลายจังหวัดที่ยังเป็นพื้นที่ของ “พรรคเพื่อไทย” แต่ “ธรรมนัส” วางเกมเตรียมดึงผู้สมัครที่มีฐานเสียงแข็งแกร่งเข้าร่วมค่าย พปชร.
พื้นที่ภาคใต้ หลังชนะศึกเขตตั้งซ่อมเมืองคอน ชื่อของ “ธรรมนัส” ถูกพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นแบคลิสต์เอาไว้แล้ว แถมเป็นเรื่องราวใหญ่โตเกี่ยวกับการแบ่งงานรัฐมนตรี ซึ่ง “ธรรมนัส” ถูกมอบหมายให้รับผิดชอบ สงขลา นครศรีธรรมราช ภูเก็ต จนประชาธิปัตย์ออกอาการไม่พอใจ กลายเป็นประเด็นร้อนกระทบสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล จน "นายกฯประยุทธ์” ต้องระงับคำสั่งใหม่
สะท้อนให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ที่แม้จะอ้างว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ก็ออกอาการไม่มั่นใจ หากต้องปล่อยให้ “ธรรมนัส” ลงไปเจาะฐานเสียง
ยิ่งนาทีนี้ “ธรรมนัส” ก็เหมือนเสือติดปีก เตรียมขยับไลน์ ขึ้นสู่เก้าอี้อำนาจในพรรค เตรียมนำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง สร้างผลงานเพื่อปูทางไปสู่เก้าอี้รัฐมนตรีว่าการที่ “เลือกได้”







