ประกัน‘เจอจ่ายจบ’ หยุดขาย-ลดวงเงิน

ประกัน‘เจอจ่ายจบ’  หยุดขาย-ลดวงเงิน

“วิริยะ -อาคเนย์-สินมั่นคง” หยุดขายประโควิด“เจอ จ่าย จบ” ปรับแผนใหม่ ลดวงเงินเหลือหลักหมื่น แต่ไปอัพเพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลหลักแสน พร้อมผลประโยชน์อื่นแทน เริ่มขาย พ.ค.นี้ หวั่นสินไหมพุ่งตามยอดผู้ติดเชื้อรายวันยังทะลุ 2 พันราย ย้ำบริหารความเสี่ยงเพียงพอจ่ายสินไหมในอนาคต ปรับความคุ้มครองสอดรับความต้องการลูกค้า

นายอานนท์ วังวสุ นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายบริษัทที่ขายประกันโควิด-19 แบบ เจอ จ่าย จบ มีทั้งยกเลิกการขาย ปรับเงื่อนไขความคุ้ม ครองลดวงเงินเจอจ่ายจบ เพิ่มความคุ้มค่ารักษาพยาบาลมากขึ้น ออกเป็นกรมธรรม์ใหม่ หรือเน้นขายประกันโควิด-19 แบบคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและโคม่าแทน

ต้องยอมรับว่า ในช่วง 1-2 สัปดาห์มานี้แนวโน้มการเคลมสินไหมเจอจ่ายจบเพิ่มขึ้น และประชาชนมีความต้องการทำประกันเป็นจำนวนมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดระลอก 3 ที่รุนแรงขึ้น ในขณะที่บริษัทต้องประเมินความสามารถในการรับประกันและการบริหารความเสี่ยงให้เพียงพอต่อการจ่ายสินไหมที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งบริษัทประกันต้องปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าแนวโน้มยอดผู้ติดเชื้อจะลดลงหรือเพิ่มขึ้นกว่าระดับ 2,000รายต่อวันหรือไม่ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประกาศหยุดขายเฉพาะประกันโควิด-19 ซูเปอร์ชีลด์แผน 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้เป็นต้นไป เนื่องจากมีประชาชนสมัครเป็นจำนวนมากใกล้ความสามารถการรับประกัน ที่จะต้องพิจารณาให้เพียงพอต่อการจ่ายสินไหมที่จะเกิดขึ้น อีกทั้งยังพบว่าลูกค้าที่ซื้อประกัน เจอ จ่าย จบ ซึ่งมีกำลังซื้อ อยากขอเปลี่ยนมาเป็นแผนที่มีความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลถึงหลักแสนเพิ่มเติม เพราะกังวลกับสถานการณ์ปัจจุบันถ้าโรงพยาบาลไม่มีเตียงแล้วต้องการไปอยู่ Hospitel

ดังนั้นช่วงต้นเดือนพ.ค.นี้ บริษัทเตรียมออกแผนประกันโควิดใหม่ตอบโจทย์ดังกล่าว โดยยังคงมีความคุ้มครอง เจอ จ่าย จบ อยู่ในแพกเกจ แต่ลดวงเงินลงเหลือหลักหมื่น แต่เน้นเพิ่มความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลวงเงินเพิ่มขึ้นถึงหลักแสน ซึ่งสูงกว่าแผนประกันโปรเทคพลัสที่มีเจอจ่ายอยู่แล้ว 10,000 บาทแต่มีค่ารักษาพยาบาล 30,000บาท รวมถึงมีค่าชดเชยรายได้ โคม่าและโคม่าจากแพ้วัคซีนอีกด้วย

ปัจจุบันบริษัทมียอดประกันโควิด-19 ถึง 1 ล้านกรมธรรม์ มีเบี้ยประกันทั้งสิ้น 300 ล้านบาท เป็นกรมธรรม์ใหม่ราว 100 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10 เท่าในช่วงการระบาดระลอก 3 จากสิ้นเดือนมี.ค.มีเบี้ยเพียง 30 ล้านบาทเท่านั้น และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามความต้องการค่ารักษาพยาบาล ขณะที่อัตราค่าสินไหมมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนแน่นอนแต่ยังบริหารจัดการได้ และบริษัทยังมีเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมายแข็งแกร่งถึง 400% พร้อมดูแลผู้เอาประกันและช่วยประสานงานกับโรงพยาบาลในเครือ รวมถึงอนุมัติเคลมสินไหมให้ไวไม่เกิน 15วันตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน

เช่นเดียวกับ บมจ. อาคเนย์ประกันภัย เป็นรายใหม่ที่เข้ามาเล่นในตลาดนี้ และมีวงเงินความคุ้มครองประกันเจอจ่ายจบสูงสุดในตลาดที่ 200,000 บาทนั้น นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เครือไทย โฮลดิ้งส์ กลุ่มธุรกิจการเงินและประกัน เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างทบทวนหยุดขายประกันโควิด-19 เจอจ่ายจบ เพื่อปรับแผนนำเสนอความคุ้มครองใหม่เป็นแพกเกจมีความหลากหลายมากขึ้น หันมาเน้นความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลวงเงินสูงขึ้น แต่ในแพกเกจก็ยังคงมีเจอจ่ายจบอยู่แต่วงเงินความคุ้มครองจะไม่สูงเท่าเดิม คาดว่าจะเริ่มขายได้ต้นเดือนพ.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและต้องมีค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลค่อนข้างสูง ซึ่งประกันเจอจ่ายจบอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ปัจจุุบันบริษัทมียอดขายประกันโควิด-19เป็นหลักหลายแสนกรมธรรม์ เป็นเจอจ่ายจบเกือบทั้งหมด ขณะที่ยอดเคลมสินไหมยังมีไม่มาก

นอกจากนี้รายงานข่ายจากบมจ. สินมั่นคงประกันภัย ระบุว่า บริษัทประกันหยุดขายประกันโควิด-19 เจอจ่ายจบตั้งแต่วันที่เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมานี้เช่นก

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รายงานยอดการจ่ายสินไหมทดแทนหรือยอดเคลมประกันภัยโควิด-19 ณ 22 เม.ย. 2564 การทำประกันภัยโควิด-19 ทั้งระบบ มีจำนวนกรมธรรม์ทั้งสิ้น 13.8 ล้านฉบับ มีเบี้ยประกันภัย 5.9 พันล้านบาท มียอดเคลมประกันภัยโควิด-19 รวมทั้งสิ้น 195 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2563 เกือบ 100 ล้านบาท

ในรอบ 4 เดือนแรกปี 2564 (ม.ค.-เม.ย. 2564) ยอดเคลมดังกล่าวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดที่ 115 ล้านบาท เมื่อเทียบกับทั้งปี 2563 อยู่ที่ 80 ล้านบาท จากการระบาดของคลัสเตอร์ใหญ่ที่จังหวัดสมุทรสาครและบ่อนพนัน และคาดว่าอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาส 2 ช่วงเดือนเม.ย. 2564 ที่เกิดการระบาดของคลัสเตอร์สถานบันเทิง ทองหล่อ ยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด