ปตท.ชู ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น’ ขับเคลื่อนธุรกิจยุคดิสรัปฯ

ปตท.ชู ‘ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น’ ขับเคลื่อนธุรกิจยุคดิสรัปฯ

ปตท.แนะภาคธุรกิจเร่งปรับตัวรับมือดิสรัปทีฟเทคโนโลยี หันใช้ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เสริมขีดความสามารถในการแข่งขัน พัฒนาธุรกิจรูปแบบใหม่ ผลักดันองค์สู่ความยั่งยืน

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) หรือ PTT กล่าวบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ The Rapid Digital Transformation in the Leading Energy Business” ในงานเปิดอบรม หลักสูตรDIGTAL TRANFORMATION FOR CEO #3 โดยระบุว่า ปัจจุบัน โลกกำลังอยู่ในยุค Intelligence ที่เป็นการสื่อสารกันระหว่างเครื่องจักรกับเครื่องจักร ทำให้โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี ส่งผลให้ภาคธุรกิจจะต้องรีบปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หรือ disruptive technology ที่จะทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ

โดยในส่วนของธุรกิจพลังงาน ปตท.มองว่าเทรนด์ของพลังงานในอนาคตจะมุ่งไป 2 เรื่อง คือ GO GREEN และ GO ELECTRIC ซึ่งในช่วงของการเปลี่ยนผ่านพลังงานดังกล่าว ก็เชื่อว่า ก๊าซธรรมชาติ จะยังเป็นพลังงานที่สำคัญ และกลุ่มปตท.จะรุกเข้าสู่ Gas Value Chain โดยจะเห็นว่า ปตท.สผ.จะเริ่มปรับพอร์ตการลงทุนโฟกัสเข้าไปในแหล่งก๊าซมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ปตท.จะได้กำหนดกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้แนวคิด PTT by PTT หรือ Powering Thailand’s Transformation หรือ PTT ที่มุ่งหวังทำให้กลุ่ม ปตท.เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศไทย ที่พร้อมขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน ยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศพัฒนาสังคม และคุณภาพชีวิตของคนไทย

ยุคนี้ต้องเป็นปลาตัวใหญ่และว่ายน้ำเร็ว และดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนนายอรรถพล กล่าว

161735747981
ปตท
.ได้ปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อรองรับสิ่งที่ต้องทำให้อนาคต โดยได้จัดพอร์ตการลงทุนธุรกิจใหม่ใน 6 ได้แก่ 1. New Energy 2. Life Science 3. Mobility & Lifestyle 4.High Value Business 5. Logistics & Infrastructure 6. AI & Robotics Digitalization

โดยธุรกิจ New Energy ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท GRP ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ GPSC เพื่อเสริมศักยภาพขยายการลงทุนธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า แตะ 8,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 การสร้างโรงงานต้นแบบผลิตแบตเตอรี่ G-Cell ที่ใช้เทคโนโลยี Semi Solid เซลล์แรกของประเทศไทย กำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์-ชั่วโมง คาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ในเดือนเม..นี้

อีกทั้งตั้งบริษัทใหม่ๆ ซึ่งปตท.ให้ความสำคัญกับการมีพันธมิตรใหม่ๆและเปิดรับร่วมลงทุนในธุรกิจ เช่น จัดตั้งบริษัท SWAP & GO เป็นธุรกิจเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า การตั้งบริษัท ออน-ไอออน โซลูชั่นส์ จำกัด (On-I on Solutions) การพัฒนา EV Changer Platform

ธุรกิจ Life Science โดยจัดตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) เพื่อลงทุนธุรกิจ Life Science ซึ่งในระยะต่อไปนี้ ก็อาจจะเห็นการปิดดีลควบรวมหรือเข้าซื้อกิจการ(M&A)ออกมาเรื่อยๆ การร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ผลิตยารักษามะเร็งแห่งแรกของประเทศไทย ตามแผนเริ่มก่อสร้างปี 2565

161735751124
ธุรกิจ
Mobility & Lifestyle จะมี บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นหัวหอกหลัก เข้าไปทำเรื่องใหม่ๆ เช่น คลาวด์คิทเชน ก็ได้ร่วมมือกับ LINE MAN จัดตั้งในปั๊มน้ำมัน พีทีที สเตชั่น ซึ่งเปิดดำเนินการสาขาแรกไปแล้วและจะขยายสาขาต่อไป และเมื่อเร็วๆนี้ OR ก็มีพันธมิตรใหม่ คือ โอ้กะจู๋ เป็นร้านอาหารที่รับกับเทรนด์ธุรกิจใหม่ เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ก็เป็นการผันตัวไปสู่ธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่น้ำมัน(non oil) มากขึ้น

ธุรกิจ High Value Business จะเป็นการผันตัวของธุรกิจปิโตรเคมี ไปเน้นเรื่องของการผลิตภัณฑ์สินค้าที่เป็นสเปเชียลตี้ แม้ว่าโควิด-19 ก็กระทบต่อราคาปิโตรเคมี แต่มองว่าในระยะยาวยังเป็นธุรกิจที่มีอนาคต โดยจะเน้นต่อยอดสู่การผลิตสินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มมากขึ้น

ธุรกิจ Logistics & Infrastructure ได้เริ่มจับมือพันธมิตรเข้าร่วมประมูลท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่ช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งทางเรือ ทางบก ระบบร่าง ที่มีโอกาสเห็นการระดมทุนเพื่อพัฒนาอีกต่อเนื่อง และปตท.ก็สนใจที่จะเข้าไปร่วมพัฒนาในโครงการต่างๆ

ธุรกิจ AI & Robotics Digitalization ซึ่งปัจจุบัน ปตท.สผ.ก็มีการจัดตั้งบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด (เออาร์วี) ที่ทำธุรกิจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ มีการผลิตหุ่นยนต์และโดรน เพื่อเข้ามาเสริมรายได้ทางธุรกิจ รวมถึงจับมือพันธมิตร เข้าไปใช้บริการโรงงานที่ต้องการใช้ดิจิตัลเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต