"กมธ.ประชามติ" เชื่อประชุมราบรื่น ทันส่งเนื้อหาเข้าที่ประชุมรัฐสภา 7-8 เมษา นี้

        นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมกมธ.ฯ​โดยมั่นใจว่าการพิจารณาเนื้อหาตามที่กฤษฎีกาปรับแก้ไขให้สอดคล้องกับมาตรา 9 ที่เพิ่มเนื้อหาให้สิทธิ์ประชาชนและรัฐสภาเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำประชามติ  จะแล้วเสร็จตามกรอบที่กำหนด ในวันที่ 1-2 เมษายนนี้ และจะนำเข้าให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาได้วันที่ 7-8 เมษายน เนื่องจากตนรับปากกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภาไว้แล้ว ส่วนการพิจารณาในที่ประชุมรัฐสภานั้น เชื่อว่าจะผ่านพิจารณาวาระสามได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของกมธ. ด้วยว่าเสียงข้างมากจะเห็นด้วยหรือไม่

       “ร่างที่ปรับปรุง แก้ไขเฉพาะ มาตรา 10 มาตรา 11 และมาตรา 12 เพื่อให้รายละเอียดถึงวิธีการทำประชามติ ตั้งแต่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนถึงมติที่มาจากครม. และมติของรัฐสภา รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่ระบุให้ทำประชามติ เพราะมาตรา9 ที่รัฐสภาเห็นชอบนั้น มีรายละเอียดไม่เพียงพอ จึงต้องเขียนกฎหมายให้สอดคล้อง เช่น ต้องใช้จำนวนประชาชนมากเท่าใดถึงเสนอเรื่องให้ทำประชามติ แต่เขียนแค่ว่าให้กกต.ออกข้อกำหนด จึงต้องเขียนเพื่อไม่ให้กกต.ใช้อำนาจกำหนดเกินขอบเขต เป็นต้น” นายสุรชัย กล่าว

  

        ด้านนายวันชัย  สอนศิริ ส.ว. ฐานะโฆษก กมธ.ฯ สัมภาษณ์โดยเชื่อว่าแนวโน้มการพิจารณาจะเป็นไปด้วยดี เมื่อกมธ.ได้ทำความเข้าใจร่วมกันแล้ว อย่างไรก็ตามตนเชื่อว่าการพิจารณาของกมธ. นั้นจะใช้ความตกลงร่วมกัน หากไม่ได้ข้อยุติต้องลงมติ

 

        "หากวันนี้กรรมาธิการสามารถตกลงกันได้ และหากเสียงข้างมากสามารถผ่านไปได้ ในวาระ3 ก็จะผ่านไปได้ และจะสามารถประกาศใช้ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติได้ เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากเป็นกฎหมายของรัฐบาล และที่มีการพูดคุยกันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตราจะต้องใช้ พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ดังนั้น การมีกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของกุญแจดอกแรกที่จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นายวันชัย กล่าว.