โบรกฯ เตือนลงทุนหุ้นรถยนต์ไฟฟ้า เหตุราคาสูงเกินพื้นฐาน

โบรกฯ เตือนลงทุนหุ้นรถยนต์ไฟฟ้า เหตุราคาสูงเกินพื้นฐาน

“กสิกรไทย”แนะนักลงทุนระวังลงทุนหุ้นยานยนต์ไฟฟ้า หลังราคาพุ่งแรง ขานรับรัฐเร่งผลิต “อีวี” เร็วขึ้น “ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี” ชี้ “ฮานา-เคซีอี” ราคายังมีอัพไซด์ “กสิกรไทย” เผย “จีพีเอสซี” ผู้ผลิตแบตเตอรี่ เก็งโรงไฟฟ้าได้ประโยชน์จากการใช้ไฟที่เพิ่มขึ้น

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นผู้ผลิตแบตเตอรี่ ราคาพุ่งนำโดย บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เพิ่มขึ้น 4.26% หรือ 2.50 บาท อยู่ที่ 61.25 บาท และ บมจ.บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) เพิ่มขึ้น 3.03% หรือ 2.25 บาท อยู่ที่ 76.50 บาท ขานรับคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติตั้งเป้าปี 2578 ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ 100% เร็วขึ้นจากแผนเดิม 5 ปี

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่รัฐบาลตั้งเป้าผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเร็วขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าปรับขึ้นยกแผง โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์สูงสุดคือ EA เพราะเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า และยานพาหนะอื่นๆ ที่ใช้ไฟฟ้า

ส่วนหุ้นที่ได้ประโยชน์รองลงมา ได้แก่ บมจ.เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) (DELTA) จัดทำระบบไฟฟ้าในรถยนต์และระบบชาร์จไฟถัดมา บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) และ บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) จัดทำชิ้นส่วนยานยนต์ และหุ้นที่ได้ประโยชน์ทางอ้อม ได้แก่ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) และ บมจ.ปตท. (PTT) ที่มีแผนสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าไว้ในสถานีบริการน้ำมัน

ทั้งนี้ราคาหุ้น EA ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 61.25 บาทต่อหุ้น ใกล้เคียงกับที่ Bloomberg Consensus ให้ไว้ที่ 66.00 บาทต่อหุ้น จึงไม่แนะนำซื้อ เช่นเดียวกันกับราคาหุ้น DELTA ส่วน HANA และ KCE ยังแนะนำซื้อที่ราคาเหมาะสม 63.00 บาทต่อหุ้น และ 65.00 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ

“ราคาเหมาะสมเป็นเพียงเป้าหมายราคาจนถึง ณ สิ้นปี 2564 เท่านั้น แต่ระยะยาวธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาล ดังนั้น นักลงทุนสามารถถือลงทุนระยะยาวได้แต่หากเข้าซื้อที่ระดับราคาปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าโอกาสปรับขึ้น แต่จะไม่มากแล้วในปีนี้”

นางสาวอรมงคล ตันติธนาธร ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การผลักดันรถยนต์ไฟฟ้ามองว่าเป็นประโยชน์ต่อหุ้น EA รวมถึง บมจ.บ้านปู เพาเวอร์ (BPP) และ บมจ.โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มากที่สุดโดยเฉพาะ EA และ BPP ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์โดยตรง ขณะที่ทั้ง 3 บริษัทเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่แก่รถยนต์ไฟฟ้า

นอกจากนี้ มองว่าในระยะยาวเมื่อมีการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นจะส่งผลให้ความต้องการกำลังการผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้นตามมา โดยคาดหวังว่าหุ้นโรงไฟฟ้าอย่าง GPSC จะได้อานิสงส์จากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาล

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนแนะนำนักลงทุนใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากราคาหุ้นปรับขึ้นเต็มมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว เช่น EA ราคาหุ้น 61.25 บาทต่อหุ้น แต่ราคาเหมาะสมให้ไว้ที่ 42.50 บาทต่อหุ้น ส่วน BPP ราคาหุ้นอยู่ที่ 19.80 บาทต่อหุ้น แต่ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 19.00 บาทต่อหุ้น จึงแนะนำซื้อ GPSC ที่ราคาเหมาะสม 83.25 บาทต่อหุ้น ยังมี Upside จากราคาปัจจุบัน 76.50 บาทต่อหุ้น