ธปท. เปิด ถาม-ตอบ 2 มาตรการทางการเงิน 3.5 แสนล้าน

ธปท. เปิด ถาม-ตอบ 2 มาตรการทางการเงิน 3.5 แสนล้าน

ธปท.เปิด ถาม-ตอบ มาตรการช่วยเหลือทางการเงิน ธปท.2โครงการมูลค่า 3.5แสนล้าน เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

  ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิด แบบคำถาม ถาม-ตอบ เกี่ยวภาพรวมมาตรการทางการเงิน 3.5แสนล้านบาท ใน2โครงการ  ทั้ง าตรการแรก เป็นมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู สำหรับผู้ประกอบธุรกิจ วงเงิน 250,000 ล้านบาท 

   และ มาตรการที่สอง เป็นมาตรการ “พักทรัพย์ พักหนี้” วงเงิน 1แสนล้านบาท เพื่อลดผลกระทบโควิด-19 

   

1. ธปท. คาดว่ามาตรการนี้จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากน้อยเพียงใด

​      จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ามาตรการครั้งนี้จะสามารถพยุงการจ้างงานได้หลายแสนคน และช่วยบริษัทให้มีสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจได้อีกหลาย 10,000 บริษัท รวมถึงช่วยลดความเสี่ยง GDP at risk ได้

2. ธปท. กังวลหรือไม่ ว่า การพักทรัพย์พักหนี้นั้น สง. จะเลือกช่วยเหลือเฉพาะธุรกิจที่เข้มแข็งเป็นหลัก ทำให้การช่วยเหลือไปไม่ถึงธุรกิจที่อ่อนแอ

      สถาบันการเงิน จะให้ความช่วยเหลือลูกหนี้โดยพิจารณามาตการที่เหมาะสมตามความจำเป็นของลูกหนี้แต่ละกลุ่ม ดังนั้น โดยทั่วไป ธุรกิจที่เข้มแข็งน่าจะไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมโครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ซึ่ง สง. อาจจะให้ความช่วยเหลือด้วยการเพิ่มภาพคล่องตามมาตรการในส่วนของสินเชื่อฟื้นฟู

     ​นอกจากนี้ สง. น่าจะมีแรงจูงใจที่จะช่วยเหลือกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมาก เพื่อลดโอกาสที่จะกลายเป็นหนี้เสีย

​.     ทั้งนี้ ธปท. กำหนดให้ สง. ส่งรายงานความคืบหน้าของการให้สินเชื่อตามมาตรการนี้เป็นประจำทุกเดือน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดตามและประเมินผลของมาตรการในด้านที่สำคัญต่าง ๆ พร้อมกำชับให้ สง. เร่งกระจายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจอย่าง
มีประสิทธิภาพและทั่วถึงทั้งลูกหนี้เดิมและลูกหนี้ใหม่      

       โดยให้ความสำคัญกับผู้ประกอบธุรกิจขนาดเล็กและผู้ประกอบธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม

3. มาตรการจะสามารถออกใช้ได้เมื่อไหร่ และจะมีผลบังคับใช้พร้อมกันทั้ง 2 มาตรการหรือไม่

​     ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนการตรากฎหมาย โดยทางการจะดูแลให้สามารถออกใช้ได้เร็วที่สุด ซึ่งทั้ง 2 มาตรการจะมีผลบังคับใช้พร้อมกัน

4. เมื่อ สง. ตกลงที่จะให้ความช่วยเหลือตามมาตรการแก่ลูกหนี้แล้ว ยังต้องผ่านการพิจารณาของ ธปท. อีกหรือไม่

​      เนื่องจากมาตรการนี้เกี่ยวข้องกับการขอรับสภาพคล่องจาก ธปท. ดังนั้น สง. จึงต้องขออนุมัติสินเชื่อโดยการส่งข้อมูลของลูกหนี้ที่จะให้ความช่วยเหลือมาที่ ธปท. เพื่อพิจารณา

.    ซึ่ง ธปท. จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ โดยให้ความสำคัญกับการดูแลให้ความช่วยเหลือถึงกลุ่มที่จำเป็น ตลอดจน ธปท. จะดูแลให้กระบวนการเป็นไปอย่างรวดเร็วเพื่อให้ลูกหนี้ได้รับความช่วยเหลืออย่างเร็วที่สุด

5. ลูกหนี้ที่อยากเข้าร่วมมาตรการต้องทำอย่างไร

​    เมื่อมาตรการนี้มีผลบังคับใช้แล้ว ลูกหนี้สามารถติดต่อ กับ สง. ได้โดยตรง และหากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ call center ของ ธปท. ที่โทร. 02-283-6112 หรือ email : FinRehab@bot.or.th

II มาตรการสินเชื่อฟื้นฟูฯ

6. มาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมี บสย. เป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งต่างจากกลไกการค้ำประกันตาม soft loan เดิมใช่หรือไม่

​     การค้ำประกันในครั้งนี้จะต่างจากการค้ำประกันตาม soft loan เดิม โดยรูปแบบที่ดำเนินการผ่านกลไกการค้ำประกันโดยบสย. ซึ่งเป็นรูปแบบที่ สง. ส่วนใหญ่มีความคุ้นเคย โดยมีลักษณะการค้ำประกันแบบ portfolio ที่มีอัตราการชดเชยสูงสุดไม่เกิน 40% และอายุการค้ำประกันระยะเวลาสูงสุดไม่เกิน 10 ปี

     7. กรณีเคยได้รับ soft loan ตามมาตรการเดิม จะยังขอสินเชื่อตามมาตรการสนับสนุนในครั้งนี้ได้อีกหรือไม่

​.   ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับ soft loan เดิมจะมีคุณสมบัติสามารถขอสินเชื่อฟื้นฟูตามมาตรการนี้ได้ โดยเมื่อรวมสินเชื่อที่ได้รับจาก soft loan เดิมกับสินเชื่อฟื้นฟูที่ได้เพิ่มเติมตามมาตรการนี้จะต้องไม่เกิน 30% ของวงเงิน ณ 31 ธ.ค. 62 หรือ ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 แล้วแต่ยอดใดจะสูงกว่า เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจ

III โครงการพักทรัพย์ พักหนี้

   8. ยอดคงค้างสินเชื่อกลุ่มธุรกิจโรงแรมในระบบ สง. คิดเป็นเท่าไหร่ และคาดว่าจะมีปริมาณเท่าไหร่ที่เข้าร่วมโครงการ พักทรัพย์ พักหนี้

​    ปัจจุบันยอดคงค้างกลุ่มธุรกิจโรงแรมในระบบ สง. มีอยู่ประมาณ 400,000 ลบ. ซึ่งจากการหารือกับ สง. และผู้ประกอบการคาดว่าวงเงิน 100,000 ลบ. น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ

9. ธปท. ได้มีการหารือกับ สง. หรือไม่ว่ามีความสนใจในการตีทรัพย์ชำระหนี้ตามมาตรการนี้เท่าไหร่ กรณีมีความต้องการมากกว่าวงเงิน 100,000 ลบ. ธปท. จะมีการดำเนินการอย่างไร

​     ในการออกแบบมาตรการ ธปท. ได้หารือทั้ง สง. และผู้ประกอบการ เพื่อประมาณการวงเงินที่จะเพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ดีการเข้าร่วมมาตรการจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจของ
     ทั้ง สง. และ ลูกหนี้ โดย สง. อาจพิจารณาจากศักยภาพของทรัพย์และความตั้งใจในการประกอบธุรกิจของลูกหนี้ ทั้งนี้ สามารถย้ายวงเงินระหว่าง 2 มาตรการได้ ภายใต้วงเงินรวมไม่เกิน 350,000 ลบ. หากมีความจำเป็น และได้รับอนุมัติจาก ครม.

10. ธปท. กำหนดนิยามของ SMEs ที่สามารถตีโอนทรัพย์ชำระหนี้หรือไม่

​    สำหรับโครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ ไม่ได้มีการกำหนดว่าธุรกิจที่จะเข้าร่วมจะต้องเป็น SMEs เท่านั้น แต่จะพิจารณาจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และมีทรัพย์เป็นหลักประกันของสินเชื่อเพื่อประกอบธุรกิจกับ สง. ก่อนที่มาตรการจะมีผลบังคับใช้

    11. นอกจากธุรกิจโรงแรม มีธุรกิจอื่นใดที่สามารถเข้าร่วม โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ บ้า

​    ธปท. ไม่ได้จำกัดประเภทธุรกิจ โดยธุรกิจอื่นที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 และมีหลักประกันที่มีศักยภาพก็สามารถเข้าร่วมโครงการได้

   12. ธปท. กำหนดเพดานของวงเงินสนับสนุนตามโครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ หรือไม่

​    ธปท. ไม่ได้กำหนดเพดานวงเงิน ทั้งนี้ สง. สามารถยื่นขอวงเงินสินเชื่อจาก ธปท. ได้ไม่เกินมูลค่าที่ตีโอนทรัพย์ชำระหนี้

13. แนวทางการคิดราคาตีโอนทรัพย์ชำระหนี้ภายใต้โครงการ พักทรัพย์ พักหนี้เป็นอย่างไร สง. สามารถรับตีโอนทรัพย์มากกว่ามูลหนี้ได้หรือไม่

​   ราคาตีโอนทรัพย์ชำระหนี้จะขึ้นกับการตกลงกันระหว่าง  ผู้ซื้อ (สง.) และผู้ขาย (ลูกหนี้) โดยลูกหนี้จะสามารถซื้อคืนทรัพย์ด้วยราคาที่ตีโอนเช่นกัน ทั้งนี้ กรณีลูกหนี้มีทรัพย์เป็นหลักประกันหลายชิ้น สามารถพิจารณาเลือกหลักประกันที่มีมูลค่าใกล้เคียงกับมูลหนี้มาตีโอนได้

14. กรณีครบกำหนดซื้อคืน 5 ปี แล้วลูกหนี้ไม่ใช้สิทธิ สง. จะดำเนินการอย่างไร

    ​สง. สามารถขายสินทรัพย์ให้แก่บุคคลอื่นได้ หากลูกหนี้เดิมไม่ใช้สิทธิในการซื้อคืน

15. โครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ มีการคิดค่าเช่าอย่างไร

   ​อัตราค่าเช่าควรอยู่ในระดับต่ำ และจะถูกนำมาหักออกจากราคาซื้อคืน เช่น กรณีตีโอนทรัพย์มูลค่า 10 ลบ. จ่ายค่าเช่า  1 ลบ. ราคาซื้อคืนจะเป็น 9 ลบ. ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขโครงการ สง. สามารถคิด carrying cost เพิ่มเติมได้ไม่เกิน 1%

16. กรณีลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการ พักทรัพย์ พักหนี้ ไม่เช่าทรัพย์กลับไปประกอบธุรกิจ สง. สามารถให้บุคคลอื่นเช่าได้หรือไม่

​    ลูกหนี้เดิมต้องได้รับสิทธิในการเช่าทรัพย์เป็นลำดับแรก อย่างไรก็ดี หากลูกหนี้ไม่ใช้สิทธิ สง. สามารถนำทรัพย์ไปให้บุคคลอื่นเช่าได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับลูกหนี้เดิมด้วย เนื่องจากมีบุคคลอื่นมาช่วยดูแลทรัพย์ไม่ให้เสื่อมโทรม และทำให้ลูกหนี้ไม่ต้องจ่ายค่าดูแลทรัพย์เนื่องจากผู้เช่าทรัพย์จะรับหน้าที่ดูแลทรัพย์แล้ว

17. ภาครัฐจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ
ผู้ประกอบธุรกิจรถบัสนำเที่ยวที่ไม่มีหลักประกันและ สง. ไม่ปล่อยสินเชื่อให้หรือไม่

​.   ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวสามารถได้รับความช่วยเหลือ
ตามมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้ได้ โดยกรณีเป็นลูกหนี้ใหม่จะมีโอกาสได้รับวงเงินสูงสุดไม่เกิน 20 ลบ. และสำหรับกรณีลูกหนี้เดิมจะได้รับสินเชื่อไม่เกิน 30% ของวงเงิน ณ 31 ธ.ค. 62 หรือ ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 แล้วแต่ยอดใดจะสูงกว่า