รัฐดัน 'กัญชง-กัญชา' พลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานราก

(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) กระทรวงสาธารณสุข ผลักดันวิสาหกิจชุมชนปลูกกัญชงและกัญชาขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ย้ำเป็นโอกาสทั้งรายเล็กและรายใหญ่ หลังตลาดปี 67 จะมีมูลค่าสูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท ติดตามได้จากรายงาน

การปลดล็อกกัญชงและกัญชาออกจากประเภทยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ให้สามารถใช้เพื่อการแพทย์ และผลิตอาหารและเครื่องดื่มได้นั้น คาดว่าตลาดกัญชาภายในประเทศไทยปี 2567 จะมีมูลค่าสูงถึง 2.1 หมื่นล้านบาท และยังสามารถทำให้เศรษฐกิจชุมชมมีรายได้เพิ่มจากการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนขออนุญาตปลูกกัญชา

สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุ ขณะนี้มีวิสาหกิจชุมชมรวมกลุ่มขออนุญาตปลูกกัญชาแล้วกว่า 100 ราย และได้รับการอนุมัติมากกว่าครึ่งให้ปลูกกัญชาได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชน เนื่องจากกัญชาเป็นพืชเศรษฐกินใหม่ มีโอกาสในการเติบโตอีกมาก โดยเป้าหมายของรัฐบาลคือการผลักดันให้ไทยเป็นฐานของกัญชงและกัญชา และเมื่อไทยเปิดประเทศในเดือนต.ค.นี้ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยเข้ามา และภายใน 2-3 ปีข้างหน้า จะเกิดโรงแรม สปา ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของกัญชา จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการทั้งรายเล็กและรายใหญ่

นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะผลักดันให้กัญชงสามารถเพาะปลูกแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อลดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นแผนต่อไป

ด้าน วัชร์โรจน์ ไชยพิเดช ประธานคณะกรรมการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรสองธารา จ.นครพนม ระบุ ทางเครืองข่ายมี 5 วิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมปลูกกัญชา ได้ได้ทำเอ็มโอยูกับบริษัทเอกชนในการปลูกและส่งกัญชาให้ไปสกัดสาร CBD ที่อยู่ในกัญชา ซึ่งราคาที่วิสาหกิจชุมชนสามารถขายได้จากเอกชนอยู่ที่ 6 พันบาท/ต้นกัญชา

การปลูกกัญชาของวิสาหกิจชุมชน ถือว่าสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร จึงทำให้หลายวิสาหกิจชุมชนสนใจที่จะขออนุญาตปลูก เพราะขายได้ราคาดี ที่สำคัญคือรายได้จากการปลูกกัญชาสามารถปลดหนี้ให้กับครัวเรือนมากกว่าพืชชนิดอื่นในขณะนี้

ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจ บิซอินไซด์ รายงาน