AEC จ่อตั้งเป็นโฮลดิ้งหารายได้แก้ปัญหาฐานะการเงิน

 AEC จ่อตั้งเป็นโฮลดิ้งหารายได้แก้ปัญหาฐานะการเงิน

บล. เออีซี เปิด 4แนวทางแก้ไขฐานะการเงินหวังปลดเครื่องหมาย C เตรียมปรับโครงสร้างทุนและโครงสร้างภายใน เพิ่มรายธุรกิจเดิม พร้อมเล็งตั้งเป็นโฮลดิ้งหารายได้จากธุรกิจใหม่

บริษัทหลักทรัพย์ เออีชี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC  แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ว่า บริษัท

ได้จัดประชุมเพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้อง(Public Presentation) ในวันจันทร์ที่ 22 มีนาคม 2564 กรณีที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" อันเนื่องมาจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50 % ของทุนชำระแล้วสำหรับงวดงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2563

สำหรับแนวทางการแก้ไข มีดังนี้

1. ปรับโครงสร้างทุน เพื่อสะท้อนโครงสร้างทุนที่เหมาะสม โดยไม่กระทบต่อผู้ถือหุ้น (ทั้งนี้ ยังไม่รวมผลประกอบการที่จะเกิดขึ้นระหว่างปี 2564)

2.ปรับโครงสร้างภายใน เพื่อลดต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่าย รวมถึงการลดและควบคุมความเสี่ยงในด้านต่างๆ

3. เพิ่มรายได้ในธุรกิจเดิม โดยพัฒนาระบบงานทางด้านธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์และฝ่ายวาณิชธนกิจ และจัดบุคลากรให้สอดคล้องกับแผนงาน

4. แสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ โดยการปรับโครงสร้างบริษัท เช่น การเป็น Holding Company เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลประกอบการและการเติบโตในระยะยาว ซึ่งจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงาน ... ต่อไป

อนึ่ง กรณีที่หลักทรัพย์ของบริษัทถูกขึ้นเครื่องหมาย "C" มีสาเหตุมาจาก ในเดือนพฤษภาคม 2563 สำนักงาน... แจ้งการไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) และให้ระงับการดำเนินธุรกิจชั่วคราว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจหลักของบริษัทมาจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าบริษัทจะได้แก้ไขNCR จนเป็นไปตามเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว

แต่บริษัทมีส่วนต่ำมูลคำหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเงิน 2.669.33 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มทุนเพื่อแก้ไขปัญหาและผบกระทบจาก NCR ในราคาต่ำกว่าราคาพาร์ เพื่อนำเงินมาใช้ประกอบธุรกิจและแก้ไขปัญหาการดำเนินงาน

เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคดิดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID- 19) ทำให้เกิดการชะลอตัวของเศรษฐกิจและส่งผลกระทบต่อธุรกิจและอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงกระทบกับการประกอบธุรกิจของบริษัทและลูกค้าที่กู้ยืมเงินจากบริษัท และการตั้งสำรองทางบัญชี และผลกระทบจากการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงินใหม่มาถือปฏิบัติ