'เกลียดชัง-เลือกปฏิบัติ' ทัศนคติอเมริกันชนต่อชาวเอเชีย

'เกลียดชัง-เลือกปฏิบัติ' ทัศนคติอเมริกันชนต่อชาวเอเชีย

"เกลียดชัง-เลือกปฏิบัติ" ทัศนคติอเมริกันชนต่อชาวเอเชีย ขณะที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคามเพราะความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิวมากกว่า 3,795 ครั้งในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

ก่อนที่การระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว “คยุง โช” สังเกตว่าบางครั้งผู้คนก็มองเขาด้วยสายตาแปลกๆ และบางคนก็ถามเขาว่าพูดภาษาอังกฤษได้มั้ย แต่ตอนนี้ โช คิดว่าทัศนคติของชาวอเมริกันที่มีต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอย่างเขามีความเป็นปฏิปักษ์มากขึ้น

“ผมว่าทัศนคติของพวกเขาต่อชาวเอเชียแย่ลงมากถึงขั้นเลวร้ายที่สุด มีวันหนึ่งผมอยู่ที่ลานจอดรถและมีเด็กอเมริกันบางคนตะโกนไล่ให้ผมกลับไปประเทศจีน ซึ่งจริงๆ แล้วผมมาจากเกาหลี” โช วัย 50 ปี เล่า

ตอนนี้ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั่วสหรัฐ กำลังวิตกกังวลหลังจากเกิดเหตุกราดยิงผู้คนอีกครั้ง โดยเหยื่ออยู่ในร้านอาบอบนวด 3 แห่ง ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในจำนวนนี้เป็นหญิงเชื้อสายเอเชียถึง 6 ราย เจ้าหน้าที่จับกุมชายผิวขาวอายุ 21 ปีที่คาดว่าเป็นคนก่อเหตุไว้ได้ ทราบชื่อว่า “โรเบิร์ต แอรอน ลอง” ขณะนี้ยังไม่ทราบมูลเหตุของการกราดยิงแต่ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเกี่ยวข้องกับความเกลียดชังชาวเอเชีย จากปมที่มีการกล่าวหาว่านำโรคโควิด-19 มาให้ชาวอเมริกัน

อย่างไรก็ตาม หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ชายผู้ต้องสงสัยว่าก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ยอมรับว่ามีอาการของโรคติดเซ็กส์และการกราดยิงอาจจะไม่ได้มาจากแรงจูงใจเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ แต่เหตุกราดยิงนี้ทำให้เกิดกระแสความหวาดกลัวในกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมากขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหานี้

เหตุกราดยิงล่าสุดในรัฐจอร์เจียเกิดขึ้นท่ามกลางความหวาดผวาของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียที่มีแนวโน้มตกเป็นเป้าประทุษร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ ในสหรัฐ หลังการระบาดของโรคโควิด-19 สร้างความหวาดวิตกว่า ธุรกิจของชาวเอเชียอาจตกเป็นเป้าโจมตี โดยผู้เสียชีวิตครั้งนี้ แยกเป็นหมอนวดหญิงเชื้อสายเอเชีย 4 ราย ในสปา 2 แห่ง ใกล้เมืองแอ็กวอร์ธ ส่วนอีกแห่งเกิดขึ้นที่เขตชีโรกี เคาน์ตี้ ผู้เสียชีวิตเป็นหญิงเอเชีย 2 ราย หญิงผิวขาว และชายผิวขาวอย่างละ 1 ราย รวมทั้งชาวฮิสแปนิกบาดเจ็บอีก 1 คน

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ ระบุว่า หญิง 4 ราย เป็นชาวเกาหลีใต้

“เป็นวันแห่งหายนะจริงๆ ชุมชนของเรา ในจอร์เจียและในแอตแลนตารู้สึกเศร้าใจมากกับเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น ฉันคิดว่าชุมชนอยู่ในภาวะช็อก ผู้คนกำลังคิดว่าเกิดอะไรขึ้นและพยายามคิดว่าอะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดในการเยียวยาจากเหตุรุนแรงครั้งนี้” เหล็ง เหล็ง แชนซีย์ ผู้อำนวยการบริหาร 9to5 องค์กรสนับสนุนผู้หญิงทำงานในสหรัฐ กล่าว

“เราถูกโอบล้อมด้วยศัตรู ชุมชนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียทั้งหมดกำลังบอบช้ำ” รัสเซลล์ จุง ศาสตราจารย์จากเอเชียน อเมริกัน สตัดดี มหาวิทยาลัยซาน ฟรานซิสโก และผู้ก่อตั้ง

STOP AAPI Hate หรือ องค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก กล่าว

รายงานล่าสุดขององค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก ระบุว่า คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคามหรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิว มากกว่า 3,795 ครั้ง ภายในช่วงเวลาไม่ถึงหนึ่งปี

องค์กรฯได้บันทึกเหตุคุกคามคนเอเชียในสหรัฐตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลสหรัฐเริ่มประกาศว่าโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในสหรัฐ จนถึงสิ้นเดือนก.พ.ของปีนี้

ส่วนในปีนี้ แม้ผ่านไปแค่ 3 เดือนเศษ เหตุทำร้ายชาวเอเชียก็เกิดขึ้นกว่า 500 ครั้ง ซึ่งหนึ่งในผู้เคราะห์ร้าย คือ นายวิชา รัตนภักดี ชายเชื้อสายไทยวัย 84 ปีที่ถูกวัยรุ่นชายทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตขณะเดินออกกำลังกายที่สวนสาธารณะใกล้บ้านในนครซานฟรานซิสโก ซึ่งผู้ต้องหาวัยรุ่นถูกควบคุมตัวและถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม

อย่างไรก็ตาม แม้การคุกคามชาวเอเชียจะเกิดขึ้นทั่วสหรัฐ แต่รัฐที่เกิดเหตุมากที่สุดถึง 45% ​ของเหตุการณ์ทั้งหมด คือ รัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากรัฐนี้มีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียอาศัยอยู่มากที่สุดในสหรัฐ รองลงมาคือรัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีรายงานการคุกคาม 14%

รายงานของ STOP AAPI Hate ระบุว่า การคุกคามด้านเชื้อชาติแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบใหญ่ๆ คือ การคุกคามด้วยวาจา ซึ่งได้รับการแจ้งเหตุมากที่สุดถึง 68.1 % รองลงมาคือการแสดงความรังเกียจ เกิดขึ้นประมาณ 20.5% และการทำร้ายร่างกาย ซึ่งคนเอเชียตกเป็นเหยื่อ 11.1 %

นอกจากนี้ ผู้ที่แจ้งเหตุถูกคุกคามยังเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า โดยคิดเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายจีน 42.2% ตามมาด้วยชาวเกาหลี 14.8% ชาวเวียดนาม 8.5 % และชาวฟิลิปปินส์ 7.9 %

อย่างไรก็ตาม องค์กรฯระบุในรายงานเกี่ยวกับยอดชาวเอเชียที่ถูกคุกคามในสหรัฐว่า จำนวนของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขที่มีคนมาแจ้งและขอความช่วยเหลือผ่านทางศูนย์อยู่มาก แต่ตัวเลขของการคุกคามที่สูงเกือบถึง 3,800 ครั้ง ก็แสดงให้เห็นว่า ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียเสี่ยงต่อการถูกเลือกปฏิบัติอย่างมาก

ขณะที่สำนักข่าววอยซ์ ออฟ อเมริกา (วีโอเอ) รายงานว่า กระแสต่อต้านชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียในสหรัฐทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดการคุกคามชาวเอเชียทะยานสูงกว่า 150% ตามเมืองใหญ่ของรัฐต่างๆ ในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้

ส่วนการรับมือของปัญหาการคุกคาม ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ลงนามในเอกสารของฝ่ายบริหารให้หน่วยงานรัฐร่วมต่อต้านและป้องกันอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในอเมริกาเมื่อปลายเดือนม.ค. และในเดือนที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐได้จัดอบรมด้านการสืบสวนและการลงโทษผู้กระทำผิดให้แก่เจ้าหน้าที่กฏหมายและตำรวจหลายร้อยคน