เซ็นหวัง ‘เซ็นบุฟเฟ่ต์’ดันกำไรปีนี้

เซ็นหวัง ‘เซ็นบุฟเฟ่ต์’ดันกำไรปีนี้

“เซ็น”คาดปีนี้ยอดขายโตไม่ต่ำกว่า 20-30% ชูโมเดล“เซ็นบุฟเฟ่”เพิ่มยอดขายเท่าตัว ควบคู่ขยายสาขาเฟรนไชส์ธีมสตรีทฟู้ด -ร้านอาหารแบรนด์ต่างๆ ใหม่อีกกว่า 70-100 แห่ง ลั่นลงทุนตามแผนควบรวมกิจการที่อยู่ระหว่างเจรจาหลายดีล

นางยุพาพรรณ เอกสิทธิกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจการเงินและบัญชี บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN เปิดเผยว่า แนวโน้มกำไของบริษัทในปีนี้ยังสามารถรักษาการทำกำไรเติบโตต่อเนื่อง เช่นเดียวกับในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 ที่มีกำไร 62 ล้านบาท ยังสูงกว่าเมื่อเทียบครึ่งปีหลังของปี 2562 ช่วงก่อนโควิดที่มีกำไรเพียง 41 ล้านบาท แม้ว่าทั้งปี 2563 จะขาดทุน 64 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการทยอยปิดสาขาที่ไม่มีกำไร

ทั้งนี้กำไรเพิ่มขึ้นมาจากการปรับโมเดลธุรกิจใหม่และคุมต้นทุนตั้งแต่ปีที่ผ่านมาและวางกลยุทธ์ต่อเนื่องในปีนี้ เน้นการเพิ่มยอดขายของเซ็น ใน 45 สาขาด้วยการทำบุฟเฟ่อย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมาช่วยเพิ่มยอดขายได้เท่าตัว และสามารถควบคุมต้นทุนของบุฟเฟ่ได้ดี และจะมุ่งขยายสาขาเฟรนไชส์ในธีมสตรีทฟู้ดไปนอกพื้นที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเหลือยอดขายและกำไรเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ส่วนแผนขยายสาขาในปีนี้ มุ่งขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์ต่างๆใหม่จำนวน 70-100 สาขา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้เพียง 50 แห่งเท่านั้น โดยการขยายสาขานั้นจะเน้นในแบรนด์ AKA เป็นหลัก เพราะปีนี้จะเป็นปีแรกที่เริ่มขยายสาขาไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดในรูปแบบเฟรนไชส์ หลังจากพิจารณาว่าในพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯเริ่มมีจำนวนจำกัด และคงมุ่งเน้นการจัดส่งแบบเดลิเวอร์รี่ โดยในระยะกลางบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เดลิเวอรี่เติบโตมากกว่า 10% ของยอดขายร้านอาหาร รวมถึงเน้นการเติบโตการขายปลีกผ่านหน้าร้าน ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็ว

พร้อมกันนี้บริษัทยังมองหาโอกาสและแนวทางการควบรวมกิจการที่ตรงเป้าหมายมากขึ้น ซึ่งแผนการควบรวม(M&A) ที่ผ่านมามีหลายดีลให้ความสนใจเข้ามาหารืออยู่ แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นของการพิจารณาและยืนยันว่าบริษัทมีความพร้อมที่จะลงทุน เพราะปัจจุบันไม่มีเงินกู้

ทางด้านยอดขายจากสาขาเดิมในปีนี้คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-30% แม้ว่าในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ยังทรงตัวหรือหดตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะผลกระทบจากโควิดระลอกสอง แต่เนื่องจากแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 2564 จะเติบโตดีกว่าปีก่อน หลังจากได้ผ่านจุดต่ำสุดในช่วงปี 2563 มาแล้ว คาดว่า ผลการดำเนินงานปีนี้น่าจะมีทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้นจากการเข้ามาของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ซึ่งจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ดี