IFEC ศาลล้มละลายแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว

IFEC ศาลล้มละลายแจ้งคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว

IFEC แจ้งคำสั่งศาลล้มละลายกลางให้พิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ยืนยันไม่เห็นด้วย-พร้อมดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้บริษัทกลับสู่ภาวะปกติต่อไป ฝั่งบริษัทย่อยภายใต้โฮลดิ้งยังทำธุรกิจได้ตามปกติ

บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC แจ้งว่า ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งในคดีฟื้นฟูกิจการ คดีหมายเลขดำที่ ฟ. 14/2561 และคดีหมายเลขแคงที่ ฟ. 25/2561 ในวันที่ 15 ก.พ.2564 ว่า ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้อง และบริษัทไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งดังกล่าว ประสงค์จะใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อศาลอุทธรณ์ชำนัญพิเศษ นั้น

บริษัทขอเรียนว่า บริษัทได้ถูกฟ้องเป็นคดีล้มละลายของศาลล้มละลายกลาง คดีหมายเลขดำที่ ล. 3237/2562 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ ล.5350/2562 ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้จำหน่ายคดีเป็นการชั่วคราว ปรากฎว่าในคดีดังกล่าว ได้มีเจ้าหนี้รายหนึ่งซึ่งมีภาระหนี้เงินต้น 3,000,000 บาท กับดอกเบี้ยต่างหาก ได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีล้มละลายดังกล่าวข้างต้น

ปรากฎว่า เจ้าหนี้ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมได้ยื่นคำร้องฉุกเฉินขอให้ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย และศาลได้นัดไต่สวนวันที่ 8 มี.ค.2564

อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2564 บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ตามคำพิพากษาให้กับโจทก์ร่วมในคดีนี้เรียบร้อยแล้ว และศาลแพ่งมีคำสั่งว่าโจทก์สิ้นสิทธิการบังกับคดี เนื่องจากหนี้ระงับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว แต่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้อง โดยอ้างเหตุว่าบริษัทไม่ได้วางทรัพย์ชำระหนี้ต่อสำนักงานวางทรัพย์ และศาลได้ใต่สวนคำร้องดังกล่าวต่อไปแล้ว มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 17

และมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ ซึ่งเป็นโจทก์ร่วม นำเงินประกันความเสียหายของบริษัทมาวางศาลจำนวน 3,000,000 บาท ภายในกำหนด 7 วัน นับแต่วันนี้ (8 มี.ค.2564) หากโจทก์ร่วมไม่นำเงินจำนวนดังกล่าวมาวางศาลภายในกำหนด ศาลจะพิจารณาสั่งตามมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 ต่อไป

ผลของคำสั่งตามมาตรา 17 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ดังกล่าว ได้กำหนดไว้ในมาตรา 24 พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 ซึ่งทำให้ บริษัทฯ ไม่อาจดำเนินการต่างๆ ได้ ดังนี้

1. ห้ามมิให้กระทำการใดๆ เกี่ยวกับทรัพย์สิน หรือกิจการของตน เว้นแต่จะได้กระทำตามคำสั่งหรือความเห็นชอบของศาล เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ผู้จัดการทรัพย์ หรือที่ประชุมเจ้าหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้

2. บริษัทฯ ไม่มีอำนาจกระทำการเกี่ยวกับทรัพย์สินที่ฟ้องร้อง ต่อสู้คดีเกี่ยวกับทรัพย์สิน ทั้งนี้ ไม่ว่าในชั้นพิจารณาหรือ ชั้นบังคับคดีก็ตาม

3. บริษัทฯ ไม่ถูกห้ามไปจัดการทรัพย์สินของผู้อื่น หรือกระทำการแทนผู้อื่น

4. บริษัทฯ ไม่ถูกจำกัดสิทธิในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดี หรือใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติล้มละลาย เนื่องจากไม่อยู่ในบังคับของมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 และรวมทั้งมีสิทธิอุทธรณ์ หรือฎีกา ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติล้มละลายได้ด้วยเช่นกัน

5. เมื่อบริษัทฯ ได้รับทราบคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์แล้ว บริษัทฯ ต้องส่งมอบทรัพย์สิน ดวงตรา สมุดบัญชี และเอกสารอันเกี่ยวกับทรัพย์สินและกิจการของตน ซึ่งอยู่ในความครอบครองให้แก่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทั้งสิ้น

บริษัทฯ ไม่เห็นพ้องด้วยกับคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว ซึ่งบริษัทจะดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อให้บริษัทฯ มีสถานะปกติต่อไป และเนื่องจากบริษัทประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ดังนั้น บริษัทย่อยและบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทฯ ยังสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ