'การ์ดวีโว่' ชิงพระเครื่องตำรวจ -ทรัพย์สินหลายรายการ

'การ์ดวีโว่' ชิงพระเครื่องตำรวจ -ทรัพย์สินหลายรายการ

ผบช.น. เตรียมดำเนินคดี 'การ์ดวีโว่' ชิงทรัพย์พระเครื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งอีกหลายรายการอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด

8 มี.ค. 64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงกรณีมีกระสุนยิงใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะเดินทางกลับจากการปฏิบัติหน้าที่ที่ศาลอาญา ว่า รถที่ใช้ขนกำลังพลเป็นรถยนต์โดยสารจำนวน 3 คันระหว่างเดินทางกลับจากศาลอาญาเวลาประมาณ 23 นาฬิกาเศษ ใกล้เคียงกับ สน.พหลโยธิน มีบุคคลทราบไม่ทราบว่าจำนวนเท่าไหร่ยิงมาใส่รถ 3 คัน  กระสุนปืนทะลุรถ ผลจากการตรวจพิเศษพบเป็นกระสุนปืนแต่ขนาดเท่าไหร่หรือประเภทอะไรหรือกี่กระบอกขอไว้ก่อน เพราะอยู่ระหว่างขยายตัวหาตัวผู้กระทำความผิด ยืนยันว่าร่องรอยที่พบรถยนต์มาจากกระสุนปืน

ส่วนมีกลุ่มคนที่เข้าชิงตัวกลุ่มการ์ดวีโว่และทำลายทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหายนั้น พบว่ามีความผิดเพิ่มเติม รับทราบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาถูกทำร้ายร่างกายและถูกชิงเงินสดของกลางที่ทำการตรวจยึดได้จากผู้ต้องหา และมีการชิงทรัพย์พระเครื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งอีกหลายรายการอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียด

โดยเงินสดจำนวนดังกล่าวเมื่อเข้าจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาพบเงินสดจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ถือไว้เพราะเป็นเวลากระชั้นชิดรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถควบคุมนำตัวไปสอบปากคำตามกฎหมาย

ระหว่างนั้นถูกบุคคลเข้าหยุดรถและทำร้ายแย่งชิงตัวผู้ต้องหา ระหว่างชิงตัวผู้ต้องหาได้มีการเอาทรัพย์สินในรถควบคุมผู้ต้องหา ทรัพย์สินส่วนหนึ่งเป็นของผู้ต้องหา อีกส่วนหนึ่งเป็นของตำรวจ เข้าข่ายกระทำความผิดปล้นทรัพย์เพิ่มเติมไปขณะจับกุมมีการบันทึกรายละเอียดไว้หมดในส่วนเงินของกลาง

ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมหลักฐานเพียงพอหรือไม่ เรารอบคอบขอรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนว่าจะดำเนินคดีกับใครบ้างข้อหาอะไร แต่ยืนยันดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องถ้าตรวจพบการกระทำความผิดดำเนินคดีหมด  การหาตัวผู้กระทำความผิดมีความคืบหน้าแต่ต้องรอนิดหนึ่ง

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เผยเพิ่มเติมว่า การชิงตัวผู้ต้องหาเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 191 ข้อหาการช่วยเหลือนำพาผู้ต้องหาให้หนีไปจากการควบคุมของพนักงานสอบสวนหรือพนักงานสืบสวนคดีอาญาซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 191 นอกจากนี้ถ้าพยานหลักฐานไปถึงผู้ใดนำของกลางหรือชิงปล้นของกลางเงินสดที่หายไป รวมทั้งทรัพย์สินของข้าราชการตำรวจจะมีควยามผิดฐานปล้นทรัพย์อีกส่วนหนึ่ง.