องค์การเภสัชฯ - ดีเคเอสเอช เตรียมรับวัคซีนโควิด ล็อตแรก 2 แสนโดส

องค์การเภสัชฯ - ดีเคเอสเอช เตรียมรับวัคซีนโควิด ล็อตแรก 2 แสนโดส

องค์การเภสัชกรรม (จีพีโอ) ร่วมกับ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด จัดเก็บ บรรจุ และกระจายวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค ล็อตแรก 2 แสนโดส กระจายให้โรงพยาบาลตามแผนการฉีด ภายใต้ระบบคุณภาพมาตรฐานที่ดี ประชาชนกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงวัคซีนอย่างปลอดภัย

วันนี้ (19 ก.พ. 64) ที่ ห้องประชุม 1 ชั้น 4 องค์การเภสัชกรรม นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย การจัดเก็บ จัดบรรจุ และกระจายวัคซีนโควิด-19 ระหว่าง องค์การเภสัชกรรม และ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด โดยระบุว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนในการฉีดให้คนไทยตามความสมัครใจ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยประสิทธิภาพ การควบคุมโรค โดยในล็อตแรกจำนวน 2 ล้านโดส จากซิโนแวค ประเทศจีน ตามกำหนดการ 24 ก.พ. เพื่อรองรับการระบาดของโควิด-19 โดยจะทำการส่งวัคซีนได้ภายในวันที่ 24 ก.พ. 64 จำนวน 2 แสนโดส เพื่อมอบให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ดำเนินการนำเข้าและขึ้นทะเบียนยา กรมควบคุมโรค เป็นผู้จัดซื้อและกระจายผ่านองค์การฯ ไปสู่ประชาชนต่อไป

โดยประชาชน 1 คน จะได้รับวัคซีน 2 โดส รวมทั้งการสั่งซื้อวัคซีนจาก บริษัท แอสตร้า เซนเนก้า (ประเทศไทย) อีก 26 ล้านโดส ในเดือนมิถุนายน อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติวัคซีนเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส รวมวัคซีนที่จะฉีดให้คนไทย 63 ล้านโดส ครอบคลุมอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของคนไทย  

161372260891

“ทั้งนี้ แนวทางบริหารจัดการ นอกจากการวางแผนในการฉีดพื้นที่เป้าหมายแล้ว ยังเป็นเรื่องของคุณภาพวัคซีนและการกระจาย ต้องตรวจสอบคุณภาพ จาก อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึง การจัดเก็บ สถานพยายาลที่ใช้ฉีดวัคซีนเป็นเรื่องสำคัญ ทั้งการจัดเก็บและกระจาย เพราะวัคซีนที่จะมีคุณภาพที่ดีต้องอยูในอุณหภูมิ 2-8 องศา ดังนั้น ต้องมีการวางแผน และดำเนินการเพื่อคงคุณภาพของวัคซีนให้ได้ ซึ่งในส่วนนี้ ดีเคเอสเอชเข้ามาจัดการ โดยไม่คิดมูลค่า 2 ล้านโดส” นพ.โสภณ กล่าว

ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนโควิด-19 ที่องค์การฯ สั่งซื้อจากซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดส จะแบ่งการส่งมอบเป็น 3 งวด งวดแรกจำนวน 2 แสนโดส ซึ่งมาถึงในวันที่ 24 ก.พ. 64 งวดที่ 2 จำนวน 8 แสนโดส ส่งมอบในเดือนมี.ค. และ งวดที่ 3 จำนวน 1 ล้านโดส ส่งมอบในเดือนเม.ย. รวมทั้งสิ้น 2 ล้านโดส โดยวัคซีนทั้งหมด องค์การฯ ได้ร่วมกับ ดีเคเอสเอช เป็นผู้ดำเนินการจัดเก็บ บรรจุ ภายในห้องจัดเก็บยาเย็น และกระจายตามมาตรฐานสากล ไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ตามแผนให้กับประชาชนที่กำหนดให้

โดยทันทีที่วัคซีนมาถึง จะมีการขนย้ายจากสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อทำขั้นตอนทางศุลกากรแล้วเสร็จ จะถูกขนส่งไปยังคลังขนส่งวัคซีนของดีเคเอสเอชเพื่อกระจายต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา มีการเตียมการ ซักซ้อมการให้บริการฉีดวัคซีนของประชาชน ขณะที่ การเก็บรักษาวัคซีน ซึ่งต้องเก็บในอุณหภูมิ 2 – 8 องศา เท่านั้น ทุก รพ. มีตู้เก็บวัคซีนอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้ เนื่องจากมีปริมาณมาก ประเมิน ดังนั้น มีงบให้ ทุก รพ. จัดซื้อตู้เย็น และสภาอุตสาหกรรม ร่วมให้การสนับสนุนเพิ่ม มั่นใจว่าที่เก็บเพียงพอ

161372260763

จอห์น แคลร์ รองประธานฝ่ายบริหารหน่วยธุรกิจ ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ประเทศไทย และอินโดจีน (เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว) บริษัท ดีเคเอสเอช กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้มาร่วมงานในวันนี้ ดีเคเอสเอช ทำธุรกิจคู่กับคนไทยมากว่า 114 ปี และมุ่งมั่นในการช่วยประเทศไทย ส่งเสริมด้านเศรษฐกิจสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยผลิตภัณฑ์สุขภาพ ด้วยความตั้งใจที่ให้คนไทยเข้าถึงยาที่มีคุณภาพ ที่ผ่านมา ดีเคเอสเอช ได้มีการกระจายวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในประเทศไทย ไปแล้วกว่า 40 ล้านโดส เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสช่วยชาติในการกระจายวัคซีนโควิด 19 ในครั้งนี้

161372260721

“บริษัท พร้อมสนับสนุนการดำเนินงานด้านการกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดส โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ด้วยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและประสบการณ์ด้านการจัดเก็บ จัดบรรจุ และขนส่ง ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ที่ได้คุณภาพและมีการรักษามาตรฐานสูงสุด ตลอดการขนส่ง ด้วยบรรจุภัณฑ์ Brilliant Box ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการควบคุมอุณหภูมิของสินค้าในกล่อง เหมาะสำหรับการขนส่งยาเย็น เช่น วัคซีนโควิด นอกจากนี้ ในรถขนส่งปรับอากาศยังมีระบบเก็บความเย็นอุณหภูมิในรถ และติดตั้ง Data Logger ที่สามารถตรวจสอบอุณหภูมิภายในรถได้ตลาดการขนส่ง เพื่อเป็นไปตามมาตรฐานมีระบบการกระจายสินค้าโดยเฉพาะวัคซีนในประเทศทั้ง 2 ล้านโดส โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย” จอห์น กล่าว