‘ดอยซ์แบงก์’รุกไทย-ตปท. ปักธงปั้มรายได้ปี64โต15%

‘ดอยซ์แบงก์’รุกไทย-ตปท.  ปักธงปั้มรายได้ปี64โต15%

ดอยซ์แบงก์คาดผลงานปี 64 มีแนวโน้มเติบโตแกร่ง หลังโควิด-19เริ่มสถานการณ์ดีขึ้น คาดหนุนนักลงทุนต่างชาติ -ไทยแห่กลับมาลงทุน ดันยอดขอสินเชื่อ-การทำธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนปีนี้พุ่ง หนุนรายได้ปีนี้โต 10-15%


    นายอเล็กซานเดอร์ วอน เซอ มูเล็น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารดอยซ์แบงก์ ผู้ให้บริการทางการเงิน ทั้งในตลาดเงินและตลาดทุน สินเชื่อ และเชี่ยวชาญด้านการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนให้กับนักลงทุนข้ามชาติ

     รวมถึงนักลงทุนไทยที่ต้องการลงทุนต่างประเทศ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของ “ดอยซ์แบงก์”ที่ผ่านมา เป็นการให้บริการกับนักลงทุนทั้งในต่างประเทศ ภูมิภาคและตลาดไทย

    โดยจุดแข็งของดอยซ์แบงก์ หากเทียบกับคู่แข็งจากสถาบันการเงินในไทย พบว่า ดอยซ์แบงก์เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านการเป็นที่ปรึกษาด้านการค้าการลงทุนและในด้านตลาดเงินให้กับนักลงทุนทั่วโลก

     ซึ่งทำให้ดอยซ์แบงก์มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง จากทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจ ลูกค้าบุคคลต่างๆ ที่สามารถหนุนการเติบโตให้กับดอยซ์แบงก์ได้ย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเติบโตในประเทศอาเซียน รวมถึงไทย ที่มีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และเป็นส่วนสนับสนุนการเติบโตให้ดอยซ์แบงก์อย่างต่อเนื่อง

    สะท้อนผลประกอบการของดอยซ์แบงก์ ในภาคเอเชียแปซิฟิก ในปี 2563 ที่ผ่านมา ที่สามารถสร้งการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 3 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่า 10% ของผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่จับต้องได้ (RoTE)

   ด้านนางภิมลภา สันติโชค กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารดอยซ์ แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2564 จากการที่ดอยซ์แบงก์ มีโซลูชั่นที่ครบวงจร ในการให้บริการและตอบโจทย์ลูกค้าและภาคธุรกิจได้ครบถ้วน ทำให้คาดว่าปีนี้ น่าจะเห็นการเติบโตของผลการดำเนินงานของดอยซ์แบงก์อย่างต่อเนื่อง

    โดยเฉพาะรายได้จากธุรกรรมปริวรรตเงินตรา หรือรายได้จากการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนของไทย ที่คาดว่าปีนี้น่าจะเติบโต ราว 15% หลังมองว่าการทำธุรกรรมอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น หลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มีการผ่อนคลายมาตรการป้องปรามเก็งกำไรค่าเงินบาท สำหรับนิติบุคคลที่อยู่นอกประเทศ ให้สามารถทำธุรกรรมได้คล่องตัวขึ้น

     ทั้งนี้ คาดว่าในด้านรายได้รวมปีนี้ในส่วนของดอยซ์แบงก์ไทย คาดว่าจะเติบโตได้ระดับ 10-15% แม้จะยังมีวิกฤตจากไวรันโคโรนา สายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 และยังอยู่ในภาวะดอกเบี้ยต่ำ แต่ดอยซ์แบงก์คาดว่า รายได้น่าจะเติบโตได้ 2หลังต่อเนื่อง จากการลงทุนที่กลับมาฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มดีขึ้น ทำให้คาดว่าจะมีความต้องการสินเชื่อ และความต้องการในการทำธุรกรรมทางการเงิน โดยเฉพาะอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มมากขึ้น