"3รมต." แจงข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน แทน "นายกฯ" ยันไม่ละเลยการทำงาน

"3รมต." แจงข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน แทน "นายกฯ" ยันไม่ละเลยการทำงาน

วิษณุ-สมศักดิ์-อนุพงษ์ ตอบข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน แทน "นายกฯ" ยันไม่ละเลยการทำงาน -ปราบบ่อน - เอื้อประโยชน์โฮปเวลล์

       นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่อกรณีการชำระค่าเสียหายจากโครงการโฮปเวลล์ ให้กับเอกชน ตอนหนึ่ง โดยยืนยันว่ากรณีการฟ้องเรียกค่าเสียหายทางละเมิดกับบุคคลที่สร้างความเสียหายนั้น ไม่หมดอายุความในเดือนเมษายน 2564 เนื่องจาก ตามมาตรา 9 ของพ.ร.บ.ว่าด้วยการรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ที่กำหนดให้ฟ้องร้องไล่เบี้ยกับเจ้าหน้าที่ เพื่อชำระค่าเสียหาย แต่เรื่องดังกล่าวรัฐยังไม่เคยจ่ายค่าเสียหาย แม้ศาลจะตัดสินให้รัฐต้องชดใช้ แต่เมื่อรัฐยังไม่ชดใช้ จึงไม่สามารถไล่เบี้ยเอาจากเจ้าหน้าที่รัฐหรือรัฐมนตรีได้ 
       “ไม่ใช่เพราะคดีไม่ถึงที่สุด แต่รัฐไม่ได้ชำระเงิน เมื่อไม่ได้จ่าย จึงไม่เสียหาย การนับอายุความคือ นับจากวันที่ชดใช้ อย่างไรก็ดีอายุความยังกำหนดไว้ในมาตรา 10 ด้วย แต่กำหนดว่า เจ้าหน้าที่รัฐสร้างความเสียหาย หรือละเมิดรัฐ แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เจ้าหน้าท่ีรัฐ เช่น ผู้ว่าการรถไฟ รัฐมนตรี กระทำละเมิดต่อกระทรวงคมนาคม ดังนั้นจึงไม่นำมาใช้ในกรณีดังกล่าว  ดังนั้นกรณีการนับอายุความ 1 ปี  จะเริ่มเมื่อรัฐจ่ายค่าชดใช้ให้กับบริษัทโฮปเวลล์ ดังนั้นกรณีดังกล่าวยังเป็นปัญหาพิจารณาต่อไป” นายวิษณุ กล่าว 
       นายวิษณุ ชี้แจงต่อกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า ตนและ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม  ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เสมือนรับตำแหน่งใหม่ ต่อ ป.ป.ช. แม้กฎหมายจะมีข้อยกเว้นสำหรับรัฐมนตรีที่รับตำแหน่งต่อเนื่อง ส่วนจะประกาศหรือไม่เป็นเรื่องหน่วยงาน  ส่วนกรณีดัชนีการทุจริต หรือ ซีพีไอ ที่ประกาศให้ไทยได้คะแนน 36 คะแนน จาก 100 คะแนน ตนขอชี้แจงว่าเป็นคะแนนที่ประเทศไทยยืนอันดับดังกล่าวมานานหลายปี  ส่วนอันดับที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น เป็นเพราะ 3-4 ปีที่ผ่านมา มีประเทศที่เข้ารับการประเมิน ถึง 108 ประเทศ 
161346986871
        ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย พาดพิงต่อกรณีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาบ่อนการพนัน ว่า ตนขอปฏิเสธเรื่องดังกล่าว อีกทั้งนายกรัฐมนตรีไม่เคยสั่งการมายังตน ทางโทรศัพท์เรื่องบ่อนการพนัน มีเพียงข้อสั่งการให้แก้ปัญหายาเสพติด โดยมีนโยบายและแนวทางชัดเจน ต่อการตัดวงจรยาเสพติด ยึดทรัพย์ ตั้งเป้าทำให้ได้ ปีละ 60,000 ล้านบาท แต่เป็นการคิดใหม่ ทำใหม่ ที่ต้องอาศัยเทคโนโลยี ขณะนี้แนวทางแก้ปัญหายาเสพติด ต้องอาศัยมาตรการที่สำคัญ​ อาทิ มาตรการความร่วมมือกับต่างประเทศ , มาตรการปราบปรามยาเสพติดและการบังคับใช้กฎหมาย  ดังนั้นตนขอความร่วมมือให้สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาเร่งรัดการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด
        “การปราบปรามยาเสพติด ด้วยการยึดทรัพย์ ได้กำหนดตัวชี้วัด โดยทุกจังหวัดต้องดำเนินการแบบบูรณาการ โดยใน 18 จังหวัดขนาดเล็กต้องขยายผล และยึดทรัพย์ ให้ได้ จังหวัดละ 50 ล้านบาท รวม 900 ล้านบาท , จังหวัดขนาดกลาง 31 จังหวัด ตั้งเป้าจังหวัดละ 70 ล้านบาท  รวม 2,170ล้านบาท, จังหวัดขนาดใหญ่  จำนวน 27 จังหวัด ตั้งเป้ายึดทรัพย์ให้ได้จังหวัดละ  90 ล้าน  รวมเป็นเงิน 2,430 ล้านบาท และกทม. จำนวน ​500 ล้าน  ซึ่งในปีที่ผ่านมา จับและยึดทรัพย์ได้เพียง  600 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในการปฏิบัติการพาลีปราบยา ที่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยึดทรัพย์ สามารถอายัดทรัพย์ได้กว่า 1,900 ล้านบาทแล้ว” นายสมศักดิ์ ชี้แจง
161346986853
        ขณะที่พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงประเด็นเรื่องบ่อนการพนัน โดยยืนยันว่าตนให้นโยบายกับหน่วยงานในสังกัด และสั่งการไปในพื้นที่ ว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบ่อนการพนัน การค้ามนุษย์ หรือมีส่วนได้รับผลประโยชน์ ทั้งนี้หน่วยงานปกครองยังให้ความร่วมมือกับหลายหน่วยงานต่อการปราบปรามบ่อนการพนัน, การค้ามนุษย์, แรงงาน เพื่อไม่ให้แผ่นดินนี้มีปัญหาอาชญากรรม นอกจากนั้นยืนยันว่ารัฐบาลคำนึงและให้ความสำคัญกับข้อมูลจำเป็นพื้นฐาน  (จปฐ.) ส่วนกรณีที่มีข้อกล่าวหาว่าการเก็บข้อมูลดังกล่าวล่าช้า นั้นเป็นเพราะผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19  
 
          รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการจัดสรรงบภัยแล้ง ว่า ได้รับฟังความต้องการของประชาชนและต้องการตอบสนองประชาชน หากพบการทุจริต ตนจะดำเนินการ  ส่วนกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน ไม่ต้องทำรายงาน ตนได้ทำส่ง 12 กันยายน 2562 ส่วนการประกาศหรือไม่ นั้น เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. 
161346986998