เดือด! ปชช. โวย ลงทะเบียน 'เราชนะ' สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ไร้การวางแผน

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 64 ที่ศาลาประชาคม อ.เมือง จ.พะเยา กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีสมาร์ทโฟนและบรรดาลูกหลานที่พากันมาลงทะเบียนโครงการ "เราชนะ" ในวันแรกล้นทะลักเกือบ 1,000 คน สร้างความโกลาหลให้บรรดาเจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุที่มารับการลงทะเบียน โดยมีการกระทบกระทั่งกันหลายครั้ง เนื่องจากมีการให้ลงทะเบียนในวันแรกแค่ 100 คนเท่านั้น โดยแบ่งเป็นภาคเช้า 50 คน และภาคบ่าย 50 คน สร้างความไม่พอใจให้ผู้ที่มารอรับการลงทะเบียนเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ กลุ่มผู้สูงอายุและญาติพยายามเบียดกันเข้าไปในห้องรับลงทะเบียนจนแน่นประตูและมีการโต้เถียงกันไปมาเพราะมีการจัดอันดับคิวไว้แค่ 50 คิวในช่วงเช้า และอีก 50 คิวในช่วงบ่าย แต่ด้วยมีคนมาลงทะเบียนเป็นจำนวนมากจึงพยายามเบียดเข้าไปอัดแน่นในพื้นที่ ซึ่งเป็นการเสี่ยงต่อการระบาดของเชื้อโควิด-19 จนเจ้าหน้าที่ของทางธนาคารกรุงไทย ต้องออกมาขอร้องแกมบังคับ ให้ทุกคนกลับไปต่อแถวเพื่อรับบัตรคิว

แต่เนื่องจากไม่มีการวางแผนเรื่องคิวตั้งแต่ต้น ทำให้ทุกคนอ้างว่ามาก่อน จนเกิดการโต้เถียงกันเองและโต้เถียงเจ้าหน้าที่จนหวิดจะมีเรื่อง จนกระทั่งต้องใช้ไม้ตายแจ้งให้ชาวบ้านให้ต่อคิว ถ้าไม่เช่นนั้นจะไม่มีการลงทะเบียนให้ใครใดๆทั้งสิ้น เหตุการณ์เลยเริ่มสงบ แต่สร้างความไม่พอใจให้ชาวบ้านที่เหลืออีกเกือบ 1,000 คนที่มาจากต่างตำบล ซึ่งมารอตั้งแต่เช้ามืดเพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ์

นายภา เคนาภูมิ อายุ 78 ปี ชาว ต.แม่ปืม อ.เมือง จ.พะเยา ซึ่งมาส่งภรรยาลงทะเบียน กล่าวว่า ได้พาภรรยามาจาก ต.แม่ปืม เพื่อลงทะเบียนรับสิทธิ แต่ปรากฏว่ามีคนจำนวนมาก ไม่มีการจัดระเบียบ ทุกคนจึงพยายามเข้าไปยังศาลาประชาคมเพื่อลงทะเบียนให้ได้สิทธิ์ 50 คนแรกในช่วงเช้า ทำให้เบียดกันที่ประตูทางเข้าและเกิดการกระทบกรทั่งกันขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่และกับชาวบ้านและชาวบ้านกับชาวบ้านเอง

ด้าน นางลำดวน ไชยวรณ์ อายุ 71 ปี ซึ่งได้ลำดับคิวเรียบร้อย เปิดเผยว่า รู้สึกเห็นใจคนที่รอข้างนอก เพราะไม่มีการจัดระเบียบ จัดคิว กันตั้งแต่ต้น และเพราะไม่รู้ว่าวันนี้จะมีคิวแค่ 100 คิว จึงพากันมาพร้อมกันหมด น่าจะเกิดจากการประชาสัมพันธ์ที่ไม่เพียงพอของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ต้องแก้ไขในวันที่สองของการลงทะเบียนถ้าไม่อย่างนั้นก็จะโกลาหลแบบนี้อีกแน่นอน

ในขณะที่ อ.เชียงคำ บรรยากาศการลงสมัครรับสิทธิ์ ณ ที่ว่าการอำเภอเชียงคำ และธนาคารกรุงไทย สาขาเชียงคำ ก็วุ่นวายไม่ต่างกัน ประชาชนกว่า 1,000 คน พยายามเข้าไปรับสิทธิ์ และมีการกระทบกระทั่งกันของชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ สร้างความไม่พอใจกับชาวบ้านเป็นอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องการประชาสัมพันธ์เรื่องวันสิ้นสุดการรับสมัครและรายละเอียดการรับคิวสมัครต่อวัน