หนังเล่าโลก Diana ‘ความรักครั้งสุดท้าย’

หนังเล่าโลก Diana ‘ความรักครั้งสุดท้าย’

เนื่องในโอกาสวันแห่งความรักที่จะมาถึงในวันที่ 14 ก.พ. หนังเล่าโลกฉบับนี้ขอพูดถึงหนังรักสะเทือนใจ เพราะเป็นความรักครั้งสุดท้ายของเจ้าหญิงในดวงใจประชาชนที่ต้องจบลงเพราะความไม่เข้าใจก่อนความตายมาพลัดพรากให้ต้องจากกันชั่วนิรันดร์ นั่นคือหนังเรื่อง Diana

Diana ภาพยนตร์ปี 2556 ผลงานการกำกับของ Oliver Hirschbiegel สร้างจากหนังสือชื่อ DIANA HER LAST LOVE เขียนโดย Kate Snell เป็นหนังสือที่ผู้เขียนได้รับเป็นของขวัญปีใหม่จากรุ่นพี่ในช่วงที่ยังอินอยู่กับซีรีส์ The Crown ซีซัน 4 ที่กล่าวถึงชีวิตคู่อันขมขื่นของเจ้าหญิงไดอานากับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส มกุฎราชกุมารแห่งอังกฤษ หนังบอกเล่าเรื่องราวในปี 2538 ที่ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงแยกกันอยู่กับเจ้าฟ้าชายชาร์ลสมาได้ 3 ปีแล้ว ต้องใช้ชีวิตอย่างเงียบเหงาเพียงลำพังที่ห้องชุดในพระราชวังเคนซิงตัน ราวเดือน ส.ค. เจ้าหญิงไปเยี่ยมสามีเพื่อนที่โรงพยาบาลรอยัลบรอมป์ตัน และได้พบกับความรักครั้งสุดท้าย “ฮัสนัต ข่าน” ศัลยแพทย์หัวใจชาวปากีสถาน ผู้มาทำวิจัยปริญญาเอกในกรุงลอนดอน เจ้าหญิงไดอานาทรงประทับใจหมอฮัสนัตทันที ไม่กี่สัปดาห์ถัดมาพระองค์เสด็จโรงพยาบาลแห่งนั้นหลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ กลางเดือน ก.ย. ทั้งคู่ก็เดตกัน

หมอฮัสนัตไม่ใช่ชายในสเป็คของเจ้าหญิงไดอานา เพราะสูบบุหรี่จัด น้ำหนักเกิน ชอบรับประทานอาหารฟาสต์ฟู้ด ทั้งๆ ที่ตนเองแนะนำให้คนไข้ดูแลสุขภาพ แต่สิ่งที่น่าประทับใจคือ หมอเป็นคนทุ่มเททำงานหนัก 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำรงอยู่ยาวนานเกือบ 2 ปี เพิ่งมายุติเพียง 5 สัปดาห์ก่อนเจ้าหญิงไดอานาประสบอุบัติเหตุสิ้นพระชนม์

จุดแตกหักความสัมพันธ์อยู่ที่วิถีชีวิตที่แทบจะไปกันไม่ได้ หมอฮัสนัตเป็นชาวปากีสถานชาติพันธุ์ปาทาน ยึดถือค่านิยมผู้ชายทำงาน ผู้หญิงอยู่บ้านดูแลครอบครัว อาศัยรวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ในเมืองลาฮอร์ การที่ครอบครัวจะรับผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดในโลกเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย แถมหมอยังเป็นคนไม่ชอบออกสื่อ ไม่อยากถูกจับตา การแต่งงานกับเจ้าหญิงไดอานาโดยที่หมอไม่สูญเสียความเป็นตัวตนย่อมเป็นโจทย์ใหญ่ให้ขบคิด เมื่อไม่มีคำตอบสุดท้ายให้ชีวิตคู่ เจ้าหญิงไดอานาจึงเป็นฝ่ายสะบั้นสัมพันธ์แล้วหันไปคบกับโดดี อัล ฟาเยด บุตรชายมหาเศรษฐีอดีตเจ้าของห้างแฮร์รอดส์ เพื่อประชดหมอที่ไม่กล้าเดินหน้าแต่งงาน ทั้งๆ ที่พระองค์พร้อมรับทุกสิ่ง รวมทั้งการศึกษาศาสนาอิสลาม

วันที่ 31 ส.ค.2540 ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ สิ้นพระชนม์ภายหลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ภายในอุโมงค์ทางลอดสะพานปองต์เดอลัลมา กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส พร้อมกับโดดี และคนขับรถ มีองครักษ์รอดชีวิตเพียงคนเดียวเท่านั้น เท่ากับว่าโดดีเป็นผู้ชายคนสุดท้ายที่อยู่เคียงข้างพระองค์ แต่เป็นรักสับขาหลอกมิใช่ความรักครั้งสุดท้ายในดวงใจ

อย่างไรก็ตาม ความรักครั้งสุดท้ายที่ไม่สมหวังระหว่างเจ้าหญิงไดอานากับหมอฮัสนัตได้ส่งผลไปถึงความรักต่อเพื่อนมนุษย์ ระหว่างที่เจ้าหญิงทรงอินเลิฟกับหมออย่างสุดๆ นั้น พระองค์ทรงมีกำลังใจในการดำเนินชีวิตและทรงงานสาธารณกุศล โครงการหนึ่งที่โด่งดังคือ การรณรงค์ต่อต้านการใช้ทุ่นระเบิด ตามอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอน และการทำลายทุ่นระเบิดสังหารส่วนบุคคล ภาพประทับใจชาวโลกคือเจ้าหญิงเยือนแองโกลาดำเนินผ่านทุ่งระเบิดที่เก็บกู้แล้วเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวบ้าน

รายงานจับตาทุ่นระเบิดเผยแพร่ระหว่างการประชุมอนุสัญญาออตตาวา ระหว่างวันที่ 16-20 พ.ย.ปีก่อน ระบุ “23 ปีหลังจากรับอนุสัญญา 164 ประเทศปฏิบัติตามอนุสัญญาดังกล่าว คิดเป็นกว่า 80% ของโลก อีก 33 ประเทศที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่ปฏิบัติตามอนุสัญญาโดยพฤตินัย ถือเป็นความสำเร็จด้านมนุษยธรรม”

กล่าวได้ว่า เจ้าหญิงไดอานามีส่วนอย่างมากกับความสำเร็จนี้ โดยที่พระองค์ทรงมีความรักจากหมอฮัสนัตเป็นแรงผลักดันให้ทรงก้าวออกมาจากชีวิตเก่าๆ อันหมองหม่น หันมาทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ต่อคนหมู่มาก เนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก เรื่องราวของไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ กับความรักครั้งสุดท้าย จึงน่าจะสร้างแรงบันดาลใจและพลังให้กับคนอื่นๆ กล้าทำในสิ่งที่แตกต่างเพื่อประโยชน์สุขของเพื่อนมนุษย์ได้อีกมาก