ทอท.ลุยจ้างไออาตา - ไอเคโอ ทวนแผนลงทุนสุวรรณภูมิ เสนอ มี.ค.นี้

ทอท.ลุยจ้างไออาตา - ไอเคโอ ทวนแผนลงทุนสุวรรณภูมิ เสนอ มี.ค.นี้

ทอท. ลุยจ้างไออาตา-ไอเคโอ ปรับปรุงผลศึกษาแนวทางพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คาดได้ข้อสรุปเสนอให้ “อนุทิน” เคาะกลาง มี.ค.นี้ สร้างอาคาร 3 แห่ง เหนือ-ออก-ตก เม็ดเงินกว่า 5.7 หมื่นล้าน ขณะที่อาคารเทียบเครื่องบินรอง คืบหน้า 95% พร้อมเปิดบริการ เม.ย.65

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ว่าจ้างสมาคมขนส่งทางอากาศ (ไออาตา) ปรับปรุงผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถของอาคารผู้โดยสาร ทสภ. ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน

โดยเบื้องต้นคาดว่าไออาตาจะใช้เวลาไม่นาน ในการทบทวนแผนพัฒนาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากในช่วงเดือน พ.ย.2562 ไออาตาเพิ่งทำการศึกษาเรื่องดังกล่าวแล้วเสร็จ และรายงานข้อมูลมายัง ทอท. ดังนั้นคาดว่าการทบทวนครั้งนี้จะทบทวนจากรายละเอียดเดิมที่มีอยู่แล้ว ทอท.จึงมั่นใจว่าจะสามารถรวบรวมข้อมูล เสนอที่ประชุมคณะกรรมการฯ กลางเดือน มี.ค.นี้

ขณะที่การว่าจ้างให้สำนักงานการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) ปรับปรุงผลการศึกษาฯ นั้น เวลานี้อยู่ระหว่างการเจรจากับไอเคโอ เพื่อขอให้นำผลการศึกษา และข้อมูลของไออาตามาพิจารณาได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าหากต้องศึกษาโดยใช้ข้อมูลใหม่ทั้งหมดจะไม่ทันกับกรอบเวลาที่ที่ประชุมกำหนดว่าจะต้องแล้วเสร็จภายใน 60 วัน หรือประมาณกลางเดือน มี.ค.นี้

“ตอนนี้เราก็พยายามเจรจากับทางไอเคโอ ว่าจะสามารถใช้ข้อมูลร่วมกับไออาตาได้หรือไม่ เพื่อให้ทันเวลา แต่หากไอเคโอไม่สามารถที่จะนำข้อมูลของไออาตามาใช้ได้ ก็อาจจะขอให้ไอเคโอระบุกรอบแนวคิดคร่าวๆ มาให้ในเบื้องต้นก่อน เพื่อนำมาเสนอที่ประชุมในกลางเดือน มี.ค. จากนั้นจึงค่อยนำรายละเอียดในการศึกษามานำเสนออีกครั้ง”

นายนิตินัย กล่าวต่ออีกว่า ยืนยันว่า ทอท. ไม่ได้ดันทุรัง และไม่ใช่คนหัวดื้อที่จะเดินหน้าดำเนินโครงการพัฒนา ทสภ.โดยไม่ฟังใคร ซึ่งเมื่อที่ประชุมมีมติขอให้ไอเคโอ และไออาตาทบทวนผลการศึกษา และมีมติให้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารทั้ง 3 แห่งพร้อมกัน วงเงินประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท ทอท.ก็ต้องดำเนินการตามมติดังกล่าว เพื่อให้ได้ข้อมูลกลับมานำเสนอและรอผลการพิจารณาเพื่อดำเนินการตามหน้าที่

สำหรับมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ จะมีการลงทุนก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร ประกอบไปด้วย 1.อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 7,830 ล้านบาท เพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร 2. อาคารส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก (West Expansion) รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 7,830 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 66,000 ตารางเมตร และ 3. โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศเหนือ (North Expansion) รองรับผู้โดยสาร 30 ล้านคนต่อปีและขยายได้ถึง 40 ล้านคนต่อปี งบประมาณลงทุน 41,260 ล้านบาทเพิ่มพื้นที่ 348,000 ตารางเมตร

นายนิตินัย ยังกล่าวถึงความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง ทสภ. ระยะที่ 2 วงเงินกว่า 6.2 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ภาพรวมการก่อสร้างทั้งโครงการมีความคืบหน้ากว่า 95% คาดว่างานโครงสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรืออาคารแซทเทิลไลท์ (SAT1) งานภูมิสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายใน จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ประมาณเดือน ก.ค.นี้

ส่วนงานระบบภายในอาคาร อาทิ การติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า ระบบตรวจจับวัตถุระเบิด และการติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) หรือรถไฟฟ้าไร้คนขับ จะแล้วเสร็จประมาณเดือน ต.ค.2564 จากนั้นจะเริ่มทดสอบความเสถียรของระบบทั้งหมดเป็นเวลา 6 เดือน ก่อนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือน เม.ย.2565