แบรนด์ดึงคนดังปั๊มยอดขาย บูมอินฟลูเอนเซอร์ คอมเมิร์ซโต

แบรนด์ดึงคนดังปั๊มยอดขาย  บูมอินฟลูเอนเซอร์ คอมเมิร์ซโต

โควิด-19 ตัวเปลี่ยนเกมค้าขายออนไลน์โตก้าวกระโดด จับตาเทรนด์มาแรง อินฟลูเอนเซอร์ คอมเมิร์ซ แบรนด์พึ่งคนดังออนไลน์ หวังปิดการขายโกยยอด

ทั้งนี้ ข้อมูลสถิติของ South China Morning Post 2019 พบว่า 60% ของรูปแบบการทำตลาดโซเชียลหรือSocial Marketing ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างเม็ดเงินให้กับผู้ประกอบการมากที่สุด คือเคโอแอล และแบรนด์สินค้าจึงนิยมจ้างดารา นักแสดง หรือผู้ที่มีชื่อเสียงมาโปรโมทสินค้าไม่ว่าจะเป็นผ่านไลฟ์สด หรือ บนโซเชียลมีเดียโพสต์ต่างๆ ซึ่งได้สร้างยอดขายถล่มทลายให้กับแบรนด์สินค้านั้นๆ ตัวอย่าง อินฟลูเอนเซอร์ระดับท็อปสามารถไลฟ์และปิดยอดขายสินค้าเป็นโกดังภายในระยะเวลา 1-2 ชั่วโมง หรือราชาลิปสติกอันดับ 1 ของจีนอย่าง Li Jiaqi ไลฟ์ขายลิปสติกผ่านเว็บไซต์เถาเป่า 15,000 แท่งหมดในไม่กี่นาที เป็นต้น

“ตลาดอีคอมเมิร์ซจีนล้ำหน้าประเทศไทยไปมาก และกลยุทธ์สำคัญที่แบรนด์ใช้ปิดการขายคือพึ่งพลังอินฟลูเอนเซอร์ คอมเมิร์ซ โดยสถิติตลาดอีคอมเมิร์ซในจีนระบุว่าการใช้เคโอแอล เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโตได้ดีกว่าช่องทางอื่นๆ ขณะที่ประเทศไทยเทรนด์อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้งมีการเติบโตมากๆอยู่แล้ว แต่ปีนี้หลายแบรนด์จะปรับตัวหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์ คอมเมิร์ซ มาช่วยป้ายยาให้ผู้บริโภคกลุ่มดป้าหมาย เพื่อก่อให้เกิดการซื้อขายสินค้า ส่วนผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่ เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องพิสูจน์ และทำอย่างไรให้ยอดขายปังแบบจีน”

นายศิวัตร เชาวรียวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย กล่าวว่า ช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว แบรนด์จะใช้จ่ายเงินผ่านสื่อโฆษณาน้อยลงง และหาทางกระตุ้นยอดขายโดยตรงมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือการใช้อินฟลูเอนเซอร์มาช่วยจูงใจหรือป้ายยาให้กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อ เป็นการทำ Affiliate marketing เมื่อได้ลูกค้าและยอดขายจะแบ่งรายได้กัน โดยแบรนด์ที่หันมาทำตลาดรูปแบบนี้ เช่น ฮังกรี้ฮับ(Hungry Hub) บิทคับ(Bitkub) เป็นต้น