‘ไบเดน’ ลงนามคำสั่ง ‘Buy American’

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐลงนามในคำสั่งพิเศษซึ่งมีชื่อว่า “Buy American” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลกลางสหรัฐใช้จ่ายเงินภาษีของประชาชนไปกับสินค้าที่ผลิตในสหรัฐอเมริกา และถือเป็นความพยายามที่จะกระตุ้นอุตสาหกรรมการผลิตภายในประเทศให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

“ภายใต้รัฐบาลชุดก่อนนั้น รัฐบาลกลางสหรัฐทำสัญญาจัดซื้อโดยตรงกับบริษัทต่างชาติสูงถึง 30% แต่เรื่องนี้จะถูกเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลของเรา” ปธน.ไบเดนกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยวิพากษ์วิจารณ์นโยบาย “America First” ของอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ว่าเป็นนโยบายที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการลงทุนกับภาคธุรกิจของประเทศ

ปธน.ไบเดน กล่าวว่า รัฐบาลกลางมีการใช้จ่ายเงินประมาณ 6 แสนล้านดอลลาร์ไปกับการจัดซื้อในทุกๆ ปี โดยกฎหมายของสหรัฐกำหนดให้หน่วยงานต่างๆ ให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสินค้าจากบริษัทสหรัฐก่อน อย่างไรก็ดี พบว่ามี “ช่องโหว่” ที่ทำให้เงินภาษีของชาวอเมริกันหลายพันล้านดอลลาร์ถูกผ่องถ่ายไปยังบริษัทต่างชาติซึ่งเป็นผู้ผลิตสินค้า

ภายใต้คำสั่ง “Buy American” หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะได้รับคำสั่งให้ปิดช่องโหว่นี้ เช่น การมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งได้แก่ การกำหนดจำนวนการสั่งซื้อสินค้าที่ผลิตในสหรัฐ

“คำสั่งพิเศษที่ผมลงนามในวันนี้ ไม่เพียงแต่กำหนดว่าบริษัทต่างๆ จะต้องผลิตสินค้ามากขึ้นในสหรัฐเท่านั้น แต่มูลค่าของสินค้านั้นจะต้องมีส่วนผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของเรา ซึ่งสิ่งที่จะสามารถชี้วัดเรื่องเหล่านี้ได้ก็คือ จำนวนพนักงานชาวอเมริกันที่ได้รับการว่าจ้างหรือได้รับการสนับสนุน” ปธน.ไบเดนกล่าว

นอกจากนี้ ปธน.ไบเดน ยังให้คำมั่นว่า อุปกรณ์ทางการแพทย์และสินค้าที่จำเป็นจะต้องมีการจัดจำหน่ายภายในประเทศ โดยระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แสดงให้เห็นว่า สหรัฐไม่สามารถอยู่ในสถานะที่จะพึ่งพาต่างชาติที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในผลประโยชน์ของสหรัฐได้อีกต่อไป ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวนี้ ปธน.ไบเดนหมายถึงจีน