หนี้พนันคนไทย 2.9 ล้านราย ปีเดียวกว่า 'หมื่นล้าน'

หนี้พนันคนไทย 2.9 ล้านราย  ปีเดียวกว่า 'หมื่นล้าน'

หนี้พนันคนไทย 2.9 ล้านราย ปีเดียวกว่า "หมื่นล้าน" อายุต่ำสุดของการเริ่มเล่นพนันครั้งแรกอยู่ที่ 7 ปี

สถานการณ์การพนันในสังคมไทย ถือเป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อคนไทยมีแนวโน้มคนไทยเล่นพนันมากขึ้นทุกปี ทั้งพนันออฟไลน์ และพนันออนไลน์ ล้วนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และปัญหาที่ตามมาจากการพนันส่งผลกระทบทั้งตัวบุคคล และลุกลามเป็นปัญหาสังคม เศรษฐกิจ โดยที่ผ่านมาการแก้ปัญหาเหมือนไฟไหม้ฟาง หลายหน่วยงานต้องการให้รัฐบาลยกระดับการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง

โครงการศึกษาสถานการณ์ พฤติกรรม และผลกระทบการพนันในประเทศไทย ประจำปี 2562 ที่ดำเนินการโดยความร่วมมือของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) ได้สำรวจ “ปีเว้นปี” ล่าสุดเป็นการสำรวจครั้งที่ 3 ต่อเนื่องจากปี 2560 และ 2558

โครงการได้เก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วไป ที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 77 จังหวัด ระหว่างเดือนเม.ย.ถึงเดือน ก.ค.2562 รวม 44,050 ตัวอย่าง พบว่า คนไทย 76.3% หรือประมาณ 40.69 ล้านคน เคยเล่นพนัน ประมาณครึ่งหนึ่งเริ่มเล่นพนันครั้งแรกเมื่ออายุไม่เกิน 20 ปี อายุต่ำสุดของการเริ่มเล่นพนันครั้งแรกอยู่ที่ 7 ปี คนเริ่มต้นเล่นการพนันตอนอายุมาก เริ่มต้นเล่นพนันครั้งแรกตอนอายุ 62 ปี และ 96.1% มีบุคคลแวดล้อมที่เล่นการพนัน

ประมาณการคนที่เล่นการพนันในปี 2562 จำแนกตามภูมิภาค อีสาน 10.913 ล้านคน เพิ่มจากปี 2560 จำนวน 4,041 แสนคน ภาคกลาง 5.588 ล้านคน เพิ่มจากปี 2560 จำนวน 2.591 แสนคน ภาคเหนือ 5.204 ล้านคน เพิ่มจากปี 2560 จำนวน 1.635 แสนคน กรุงเทพฯและปริมณฑล 4.622 ล้านคน เพิ่มจากปี 2560 จำนวน 4.183 แสนคน ภาคใต้ 4.094 ล้านคน เพิ่มจากปี 2560 จำนวน 2.046 แสนคน รวม 30.421ล้านคน

ปี 2562 คนไทยเล่นการพนัน 57% หรือประมาณ 30.42 ล้านคน เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจในปี 2560 พบว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 1.49 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่เล่นพนันครั้งแรกในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หรือเรียกว่า “นักพนันหน้าใหม่” 7 แสนกว่าคน

แม้พบว่านักพนันส่วนใหญ่มีอายุอยู่ในช่วงวัยทำงาน แต่ก็น่ากังวลใจที่มี เด็กอายุ 15-18 ปี เล่นพนันประมาณ 7.33 แสนคนหรือคิดเป็น 20.9% ของกลุ่มเด็ก โดยมีวงเงินพนันหมุนเวียนรวมประมาณ 10,200 ล้านบาท และเยาวชนอายุ 19-25 ปี เล่นการพนันประมาณ 3.05 ล้านคนหรือคิดเป็น 46.3% ของกลุ่มเยาวชน โดยมีวงเงินพนันหมุนเวียนรวมประมาณ58,878 ล้านบาท

ขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป เล่นการพนันประมาณ 3.35 ล้านคนหรือคิดเป็น 42.2% ของกลุ่มผู้สูงวัย โดยมีวงเงินพนันหมุนเวียนรวมประมาณ 57,131 ล้านบาท

การพนันยอดนิยม 5 อันดับแรก ยังคงเป็นเช่นเดียวกับผลสำรวจที่ผ่านมา ได้แก่ สลากกินแบ่งรัฐบาล หวยใต้ดิน ไพ่ พนันทายผลฟุตบอล และไฮโล โปปั่น น้ำเต้าปูปลา

แต่เมื่อดูจากวงเงินที่หมุนเวียนในตลาดพนันพบว่า พนันทายผลฟุตบอลมาเป็นอันดับ 1 มีวงเงินพนันหมุนเวียนมากถึง 160,542 ล้านบาท ตามมาด้วยหวยใต้ดิน 153,158 ล้านบาท และสลากกินแบ่งรัฐบาล 150,486 ล้านบาท รวมวงเงินหมุนเวียนกว่า 4.64 แสนล้านบาท

สำหรับวงเงินพนันหมุนเวียนของกลุ่มที่เล่นพนันในบ่อนอยู่ที่ประมาณ 122,566 ล้านบาท ขณะที่การพนันออนไลน์พบว่ามีเพียง 1.55% หรือประมาณ 826,925 คน ที่ระบุว่าเล่นพนันออนไลน์ประมาณวงเงินพนันรวม 20,152 ล้านบาท ประเภทของการพนันออนไลน์ที่คนไทยเล่นมากที่สุดอันดับแรกคือ บาคาร่า ป๊อกเด้ง อยู่ที่ร้อยละ 45.2ถัดมาคือ เกมไพ่ชนิดอื่นๆ สล๊อตแมชชีนหรือตู้เกม พนันทายผลกีฬา หวยต่างๆ และอื่นๆ โดยมีการพนันสกิน หรืออีสปอร์ต ที่ร้อยละ 5.9 อยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อรวมวงเงินพนันในทุกกลุ่มทั้งออฟไลน์และออนไลน์ในปี 2562 จะอยู่ที่ 606,904 ล้านบาท

นอกจากนี้จากผลการสำรวจยังพบว่า ในปี 2562 คนไทยมีพฤติกรรมเข้าข่ายว่าเป็นนักพนันที่มีปัญหา 210,090 คน ในจำนวนนี้เป็นเด็กและเยาวชน อายุ 15-25 ปี 38,953 คน อยู่ในช่วงวัยทำงาน 146,212 คน และผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป 24,925 คน

ด้านผลกระทบพบว่า 9.8% ของผู้ที่เล่นพนันในปี 2562 หรือประมาณ 2.9 ล้านคน ระบุว่าได้รับผลกระทบเชิงลบจากการพนัน ได้แก่ ขาดเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มีปัญหาความเครียด เป็นหนี้ มีปากเสียงทะเลาะกับคนในครอบครัว สุขภาพเสื่อมโทรม เสียเวลาทำงาน หรือการเรียน และอื่นๆ โดยประมาณ คนไทยที่เล่นพนันในปี 2562 จำนวน 1.068 ล้านคน มีหนี้สินที่เกิดจากการพนันรวมกันประมาณ 11,468 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคนละ 10,738 บาท สูงสุด 200,000 บาท