"วัฒนา" โพสต์ชวน คนไทยเลือก "กลุ่มสร้างไทย" พร้อมแขวะ รัฐบาลทหารไม่มีปัญญาดูแลประชาชน

"วัฒนา" โพสต์ชวน คนไทยเลือก "กลุ่มสร้างไทย" พร้อมแขวะ รัฐบาลทหารไม่มีปัญญาดูแลประชาชน

วัฒนา เมืองสุข โพสต์ในนามกลุ่มสร้างไทย แขวะรัฐบาลทหาร ไร้ปัญญาดูแลชายแดน หลังปล่อยคนลักลอบ ทำโควิด-19 ระบาดระลอกใหม่ แถมท้ายชวนคนไทยเลือกกลุ่มสร้างไทยครั้งหน้า

        นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำกลุ่มสร้างไทย โพสต์ขัอความผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 มกราคม เพื่อแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยนำเสนอข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลทหาร โดยระบุ ความในสาระสำคัญ ว่า วันที่ 29 ธันวาคม 2563   เวียดนามและอังกฤษได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ)  ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 สมาชิกสภาแห่งชาติเวียดนามมีมติให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าเสรีอียู-เวียดนาม ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นผลให้เวียดนามได้เปรียบไทยในทุกมิติ และทำให้นักลงทุนหนีจากไทยไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามแทน

       "สมัยแรกของรัฐบาลไทยรักไทย ช่วงปี 2544-2548 นโยบายสำคัญคือการเจรจาเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น สหรัฐ อียู จีน อินเดีย ออสเตรเลีย เปรู อาเซียน เป็นต้น เพื่อเอามาแทนสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่น GSP ที่วันหนึ่งจะต้องถูกตัดอันจะทำให้นักลงทุนต้องหนีจากไทย ที่น่าเสียดายคือการเจรจาเอฟทีเอถูกฝ่ายตรงข้ามนำมาโจมตีว่าพวกเราจะขายชาติและเรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจ และปี 2546 ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นผู้คิกออฟเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหรัฐ แต่ผลของการยึดอำนาจทำให้อียูและประเทศคู่ค้าที่สำคัญไม่ยอมเจรจากับไทย” นายวัฒนา ระบุ

       นายวัฒนา กล่าวด้วยว่า ส่วนทหารไทยเก่งกับประชาชนมือเปล่าและการยึดอำนาจ แต่ไม่มีปัญญาดูแลชายแดนปล่อยให้แรงงานข้ามชาติลักลอบเข้ามาจนเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่สร้างความเดือดร้อนกันทั้งประเทศ แต่ในโอกาสนี้ พวกเราทำได้เพียงขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนให้ป้องกันตัวเอง และขอให้ผ่านพ้นโรคภัย เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งเราจะมาร่วมใจกันสร้างไทยขึ้นใหม่อีกครั้ง

         ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับกลุ่มสร้างไทยนั้น เป็นกลุ่มที่นำโดยคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หลังจากแยกตัวออกจากพรรคเพื่อไทย และการโพสต์ข้อความของนายวัฒนานั้น ได้ลงท้ายด้วยคำว่า "กลุ่มสร้างไทย" เป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกนั้น ได้ระบุใต้ข้อความ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563.