'ไลฟ์สด-คอนเสิร์ตเสมือนจริง'นิวนอร์มอลเอเชียปี63

'ไลฟ์สด-คอนเสิร์ตเสมือนจริง'นิวนอร์มอลเอเชียปี63

“ไลฟ์สด-คอนเสิร์ตเสมือนจริง”นิวนอร์มอลเอเชียในปีนี้ ขณะที่มาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางและการรักษาระยะห่างทางสังคมทำให้บีทีเอสได้แสดงคอนเสิร์ตตามปกติแต่ในรูปแบบออนไลน์

มาตรการบังคับให้ประชาชนอยู่บ้าน เลี่ยงออกไปรวมตัวกันในที่ชุมชนของหลายประเทศเพราะการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พื้นที่ว่างด้านดิจิทัลในปี2563 กลายเป็นสมรภูมิรบแห่งใหม่เพื่อชิงเงินในกระเป๋าผู้บริโภค บรรดาผู้เล่นในอุตสาหกรรมค้าปลีก ผู้จัดงานอีเวนท์ ตลอดจนผู้เล่นรายอื่นๆ ต่างพร้อมใจหันมาพึ่งพาการไลฟ์สดทางอินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางในการเสนอขายสินค้าและบริการในช่วงที่โลกกำลังรับมือกับโรคระบาดใหญ่

รายงานสำรวจแนวโน้มผู้บริโภคปี2020 ของนิกเคอิ ซึ่งทำการสำรวจ11ประเทศและภูมิภาคในเอเชียช่วยให้ภาพรวมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เริ่มจากวงบอยแบนด์เกาหลีใต้สุดฮิตอย่างบีทีเอสที่เจอมรสุมโควิด-19 จนทำให้ต้องเลื่อนแสดงคอนเสิร์ตทั่วโลก แต่แทนที่จะยอมจำนนต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น วงบอยแบนด์ที่มีสมาชิก7คนวงนี้ได้จัดคอนเสิร์ตเสมือนจริงทางออนไลน์เป็นเวลาสองวัน ที่ผู้ชมต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม และสามารถดึงดูดผู้ชมได้มากกว่า 990,000 คนจาก 191 ประเทศและภูมิภาค กวาดรายได้ไปเกือบ 50 ล้านดอลลาร์

ก่อนโควิด-19ระบาด บรรดาแฟนเพลงบอยแบนด์วงนี้ที่อยากได้ประสบการณ์ร่วมกับเหล่านักร้องและนักดนตรีของวงนี้ต้องแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมคอนเสิร์ตให้ทัน ไม่งั้นตั๋วหมด แต่มาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางและการรักษาระยะห่างทางสังคมที่ทำให้ต้องระงับการทัวร์คอนเสิร์ต ทำให้บีทีเอสกลับมาแสดงคอนเสิร์ตได้ตามปกติเพียงแต่เป็นรูปแบบของการแสดงสดทางออนไลน์

ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียก็ได้รับความนิยมเพราะการระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้คนในภูมิภาคนี้เลือกที่จะไม่ออกไปจับจ่ายซื้อหาสิ่งของตามร้านขายของชำเหมือนปกติแต่ซื้อสินค้าและบริการทางออนไลน์แทน และผู้มีอิทธิพลในตลาดออนไลน์บางคนสามารถขายสินค้าและบริการได้เป็นเงินเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ในเทศกาลวันคนโสดของจีน 11 พ.ย.ที่ผ่านมา

ในจีนนั้น “การขายของแบบไลฟ์สด” ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างธุรกิจอีคอมเมิร์ซและไลฟ์สตรีมมิง กลายเป็นสมรภูมิรบแห่งใหม่ของการช็อปปิ้งทางออนไลน์ นอกจากอาลีบาบาและยักษ์ใหญ่ด้านอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ติ๊กต่อกและบริษัทให้บริการแอพฯวิดีโอสั้นรายอื่นๆต่างเข้ามาแข่งขันในสมรภูมิต่อสู้นี้

ขณะที่ในมาเลเซียไลฟ์สดขายอาหารทะเล ได้รับความนิยมอย่างมากในมาเลเซียและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นแก่ชาวประมงท้องถิ่น ส่วนที่ไต้หวัน Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba ภาพยนต์การ์ตูนญี่ปุ่นทำเงินได้มากที่สุดในไต้หวัน โดยโกยเงินช่วง 17 วันแรกของการเริ่มฉายในเดือนต.ค.ไปได้ 12.5 ล้านดอลลาร์ และขนมปังญี่ปุ่นแบรนด์“โชกุปัน” ก็เป็นแบรนด์ขนมปังญี่ปุ่นที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภคชาวไต้หวัน

ส่วนที่อินเดีย ซีรีส์จากเกาหลีใต้ เป็นซีรีส์ยอดนิยมในหมู่ชาวอินเดีย และแอพฯวิดีโอเกม “ลูโด คิง” เป็นแอพฯบนสมาร์ทโฟนที่มีการดาวน์โหลดกว่า100 ล้านครั้งในแดนภารตะ

ที่อินโดนีเซีย ยาสมุนไพรโบราณ“จามู” มียอดขายเพิ่มขึ้นปีละ6%ในช่วง9เดือนแรกของปี2563 และนักร้องญี่ปุ่น “มิกิ มัตสึบารา”ที่ร้อง เพลง “Stay with Me”ถูกนำเพลงไปร้องใหม่โดยนักร้องอินโดฯและได้รับความนิยมติดอันดับสูงสุด ของชาร์ตเพลงสตรีมมิง

ขณะที่วง JKT48 วงเกิร์ลกรุ๊ปได้รับความนิยมผ่านการแสดงสดทางออนไลน์และสร้างกระแสแชทกับเหล่าแฟนคลับผ่านทาง“ซูม”

ที่สิงคโปร์ แพคเก็จสเตเคชั่นของโรงแรมแชงกรีลาในสิงคโปร์ สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก เพราะยอดจองในเดือนธ.ค.ขายหมดเกลี้ยง แม้มีราคาสูงถึง คืนละ 500 ดอลลาร์ ขณะที่เก้าอี้ทำงานสำหรับคนทำงานที่บ้าน ก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง10เท่าเมื่อเทียบจากปีก่อนหน้า

ส่วนในไทย ชาวไทยนิยมอัพโหลดวิดีโอติ๊กต่อกมากขึ้นจากเดิมที่แค่ทำหน้าที่เป็นผู้ชมอย่างเดียว จนทำให้ยอดอัพโหลดเมื่อปลายเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้น2เท่าจากปีก่อน ส่วนซีรีส์“วาย” ซีรีส์แนวชายรักชายจากเกาหลีใต้ ได้รับการตอบรับจากผู้ชมในไทยมากถึง 20 ล้านคน และ“เทเลแกรม”แอพฯส่งข้อความของรัสเซีย ก็ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย โดยเฉพสะในช่วงที่มีการชุมนุมประท้วงในไทย

ที่ฟิลิปปินส์ บริการส่งอาหาร ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะ“แกร๊บ ฟู้ด” และการแลกเปลี่ยนสิ่งของทางสื่อโซเชียลก็เป็นกระแสที่มาแรงไม่แพ้กัน เพราะคนตกงานจำนวนมาก จึงเกิดกระแสนี้บนโลกออนไลน์

ที่เวียดนาม เพลงล้างมือ ได้รับความนิยมอย่างมาก ได้รับการดาวน์โหลด 70 ล้านครั้ง ขณะที่ร้านขายยา สมัยใหม่ก็เข้ามาแทนที่ร้านขายยาแบบเก่า และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มียอดขายในเวียดนามเพิ่มเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพิ่มขึ้นกว่า30% จากปีก่อน

ปิดท้ายที่เมียนมา ธุรกิจบริการอี-เปย์เมนท์ ช่วง9เดือนแรกของปีนี้มาแรงมาก การโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ในเมียนมาบนมือถือมีมูลค่า5,900 ล้าน ดอลลาร์ หรือ 8 ล้านล้านจั๊ต เทียบกับ 6.4 ล้านล้านจั๊ต ในปี2562 ส่วนไลฟ์สดขายของก็กระแสแรงไม่แพ้กัน โดยเหล่าคนดังและร้านค้าที่ปิดตัวเพราะโควิด-19 พากันไลฟ์สดขายของทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับทาง เฟซบุ๊ค