'หมอธีระวัฒน์' แจงแล้ว เหตุผลตรวจ 9 จนท. 'ทำเนียบ' เป็นบวก

'หมอธีระวัฒน์' แจงแล้ว เหตุผลตรวจ 9 จนท. 'ทำเนียบ' เป็นบวก

"หมอธีระวัฒน์" แจงแล้ว เหตุผลตรวจ 9 จนท."ทำเนียบ" เป็นบวก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศูนย์บริการสุขภาพจุฬาฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาสุ่มตรวจ กลุ่มข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) จำนวน 350 ราย โดยวิธีการตรวจหาภูมิคุ้มกัน ด้วยชุดทดสอบแบบรวดเร็ว หรือ Rapid Test คือเจาะเลือดปลายนิ้วมือพบมีผลบวกจำนวน 6 คน นั้น และได้ดำเนินการตรวจ swab แล้วนั้น

ล่าสุด ทางสำนักโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยผลตรวจ swap เจ้าหน้าที่ทั้ง 6 คนผลปรากฎว่าเป็น negative ไม่มีความเสี่ยง แต่เพื่อความสบายใจได้ให้ทำงานรูปแบบ Work from home แล้ว เพื่อความสบายใจจากผู้ร่วมงาน

ด้าน ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การตรวจ ”คัดกรอง” จากการเจาะเลือดปลายนิ้ว ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 ธันวาคม 2563 เป็นการตรวจดูว่า คนๆนั้นติดเชื้อหรือไม่ เพื่อที่จะได้แยกตัวออกจากคนอื่นทันทีทันใด แต่การคัดกรองนี้ ด้วยชุดตรวจใบยา (ซึ่งก็ทำการผลิตวัคซีนใบยา โควิด-19 ด้วย) เนื่องจากมีความไวที่สุดจึงอาจจะมีผลบวกเกินจริง นั่นก็คือคนไม่ติดเชื้ออาจจะได้ผลบวกไปด้วย แต่คนติดเชื้อจริงจะไม่หลุดรอดเลย โดยมีผลบวกหมด

กรณีที่ตรวจที่ทำเนียบรัฐบาลนั้นจำนวน 350 รายที่พบผลบวก 9 รายนั้น เมื่อเอามายืนยันโดยการตรวจเลือด วิธีมาตรฐานที่ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลจุฬาสภากาชาดไทย ว่าติดเชื้อจริงหรือไม่พบว่ามีการติดเชื้อ และยังเอาสิ่งส่งตรวจที่ได้จากการแยงโพรงจมูกทั้ง 9 ราย เพื่อ หาเชื้อ ด้วยกระบวนการพีซีอาร์ พบว่าไม่มีเชื้อ


นั่นก็คือในการคัดกรองนั้นไม่มีความจำเป็นที่จะต้องแยงจมูกและนำมาตรวจ ทั้ง 350 ราย เพียงแต่ทำการตรวจในเก้ารายนี้เท่านั้นเอง โดยวิธีใดวิธีหนึ่ง คือหาเชื้อด้วยการแยงจมูก หรือ หาภูมืในเลือดด้วย “เครื่องใหญ่” ที่เป็นมาตรฐานแต่ต้องใช้เวลา 3 ชั่วโมง การคัดกรองนี้มีความหมายมากของประเทศไทย เพื่อ ตัดวงจรการแพร่ระบาดจากคนที่ติดเชื้อโดยเฉพาะคนที่ไม่มีอาการ “ให้มีการแยกตัวทันที” ไม่ให้มีการแพร่ออกไปเป็นลูกโซ่