นักวิชาการห่วงควบรวม Tesco ชี้รัฐลำบากตรวจสอบ CP ทำตาม 7 เงื่อนไข

นักวิชาการห่วงควบรวม Tesco ชี้รัฐลำบากตรวจสอบ CP ทำตาม 7 เงื่อนไข

“นักวิชาการ” ห่วงควบรวม “ซีพี-เทสโก้” ชี้รัฐตรวจสอบทำตามเงื่อนไข 7 ข้อหลังอนุญาตลำบาก ระบุเป็นข้อมูลทางธุรกิจของเอกชน

หลังจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) อนุมัติคำขอควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท ซี.พี.รีเทล ดีเวลลอปเม้น จำกัด และ บริษัท เทสโก้ สโตร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 2 พ.ย.2563 ได้มีการแสดงความเห็นหลากหลาย รวมถึงการรอเผยแพร่คำวินิจฉัยฉบับเต็มของมติควบรวมกิจการที่ยังไม่เปิดเผย

นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า กำลังรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มของคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าว่ามีหลักคิดและเหตุผลสนับสนุนมติควบรวมกิจการแบบมีเงื่อนไข โดยตั้งเงื่อนไขหลายข้อแต่ให้ CP ตอบกลับไปพิจารณา

ทั้งนี้ หาก CP ยอมรับเงื่อนไขต้องถามว่าจะให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าไปติดตามนั้นทำได้จริงหรือไม่ หรือเงื่อนไขที่ตั้งไว้จะกลายเป็นต้นทุนและอุปสรรคให้ภาครัฐเองที่ต้องไปติดตามว่าเอกชนทำได้หรือไม่

“เท่าที่ดูเงื่อนไขบางข้อที่ตั้งไปก็เห็นแล้วว่าติดตามตรวจสอบได้ยาก คือ ไม่มีทางเลยที่จะไปดูว่าเอกชนทำจริงหรือเปล่า เพราะไม่ใช่ข้อมูลที่เปิดเผยโดยทั่วไป แต่เป็นเงื่อนไขซึ่งเป็นข้อมูลภายในของบริษัท ซึ่งคณะกรรมการฯ เองไม่สามารถไปตามดูได้ทั้งหมดว่าข้อมูลที่ให้มานั้นเท็จจริงเพียงใด” นายนิพนธ์ กล่าว

สำหรับการควบวมกิจการครั้งนี้มีความสำคัญมากเพราะสังคมจับตามอง เมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้จะเกิดบรรทัดฐานหรือไม่ โดยเฉพาะการทำงานของคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าในปัจจุบันเป็นรูปแบบของคณะกรรมการที่ทำงานเต็มเวลาแบบองค์กรอิสระโดยมีกฎหมายเฉพาะที่ยกร่างขึ้นมาใหม่ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ไม่พ้นที่จะถูกครหาว่าเป็นเสือกระดาษได้

สำหรับเงื่อนไขที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจปฏิบัติมี 7 ข้อ ดังนี้

1.ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่มีสถานะเสมือนเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันกระทำการรวมธุรกิจกับผู้ประกอบธุรกิจรายอื่นในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ ไม่รวมถึงตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce)

2.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เพิ่มสัดส่วนของยอดขายสินค้าที่มาจากผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ประกอบด้วย กลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าวิสาหกิจชุมชนหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) และกลุ่มสินค้าอื่น ๆ ของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และ เทสโก้ สโตร์ส รวมกันทุกรูปแบบ ในอัตราเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่า 10 % ต่อปี เป็นระยะเวลา 5 ปี ทั้งนี้ ให้ใช้หลักเกณฑ์ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามความในกฎหมายว่าด้วยการกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

3.ห้ามมิให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตให้รวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่มีสถานะเสมือนเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภค ใช้ข้อมูลร่วมกันหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการตลาดที่เกี่ยวข้องกับผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ โดยให้ถือว่าเป็นความลับทางการค้า

4.ให้บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด คงไว้ซึ่งเงื่อนไขของสัญญาและข้อตกลงระหว่างผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิม ที่ได้มีการทำสัญญาหรือข้อตกลงไว้ เป็นระยะเวลา 2 ปี เว้นแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาที่เป็นคุณหรือเป็นประโยชน์ต่อผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบรายเดิม และต้องได้รับการยินยอมจากผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าหรือวัตถุดิบนั้น ๆ ด้วย

5.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ตามความในกฎหมายว่าด้วยการกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้ได้รับสิทธิประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น ด้วยการกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อการค้า (Credit Term) เป็นระยะเวลา 30 – 45 วัน นับจากวันที่ยื่นเอกสารเรียกเก็บเงิน เป็นระยะเวลา 3 ปี จำแนกเป็น

5.1. กลุ่มสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรชุมชน สินค้าชุมชน สินค้าวิสาหกิจชุมชนหรือผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น (OTOP) ภายในระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน และ

5.2 กลุ่มสินค้าอื่น ๆ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 45 วัน  

ทั้งนี้ กรณีข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิมที่มีผลใช้บังคับก่อนคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าออกคำสั่งนี้มีระยะเวลาการให้สินเชื่อน้อยกว่าที่คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ากำหนด ให้ใช้ข้อกำหนดระยะเวลาการให้สินเชื่อเดิม หรือกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น

6.ให้บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด รายงานผลการประกอบธุรกิจ ภายใต้การดำเนินการตามกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขที่ได้รับจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เป็นรายไตรมาสหรือในระยะเวลาที่กำหนด ตามแบบที่สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้ากำหนด เป็นระยะเวลา 3 ปี

7.ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตรวมธุรกิจและผู้ประกอบธุรกิจที่มีสถานะเสมือนเป็นหน่วยธุรกิจเดียวกันในตลาดร้านค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่สินค้าอุปโภคบริโภค กำหนดมาตรฐานในการปฏิบัติทางการค้าที่ดี (Code of Conduct) เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชน

และถือปฏิบัติตามมาตรฐานดังกล่าว ตลอดจนประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่อง แนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมระหว่างผู้ประกอบธุรกิจค้าส่งค้าปลีกกับผู้ผลิตหรือผู้จำหน่าย พ.ศ. 2562 อย่างเคร่งครัดและต้องไม่กระทำการที่เป็นข้อห้ามของผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาดตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560