ระวัง ‘โควิด’ ฉุดเชื่อมั่น ซ้ำเติมเศรษฐกิจอีกระลอก

ระวัง ‘โควิด’ ฉุดเชื่อมั่น ซ้ำเติมเศรษฐกิจอีกระลอก

สถานการณ์โควิด-19 วันนี้ สร้างความวิตกกังวลให้ประเทศไทยอีกครั้ง ไทยยังคงติดหล่มที่เกิดจากความมักง่าย เห็นแก่ตัวและการ์ดตก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมสอดส่อง ดูแลไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกรอบ จนกลับมาซ้ำเติมเศรษฐกิจระลอกใหม่

สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 กลับมาสร้างความวิตกกังวลให้ประเทศไทยอีกครั้ง จะด้วยเพราะความมักง่าย ความไม่รู้ หรือการปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดการติดเชื้อโควิดในประเทศและติดจากเชื้อที่นำเข้ามา โดยเฉพาะบริเวณชายแดนช่องทางธรรมชาติ กลายเป็นพื้นที่เสี่ยงและรัฐต้องเข้าไปคุมเข้มการเข้าออก เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่เราละเลยและประมาทมากเกินไป

ผลที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้ง จ.เชียงราย เชียงใหม่ กลายเป็นพื้นที่ที่หลายคนแสดงความกังวลใจ กระทบไปถึงภาคการท่องเที่ยว ที่ก่อนหน้านี้ก็ทรุดหนักจนแทบจะเกินเยียวยา หวังว่าช่วงปลายปี ฤดูท่องเที่ยวจะดันให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่กลับต้องมาเจอประเด็นที่เกิดจากความมักง่าย เห็นแก่ตัว ที่ทุกภาคส่วนละเลย การ์ดตก ไร้การคุมเข้ม

ขณะที่วานนี้ ประเทศไทยตรวจพบผู้ติดโควิด-19 รายใหม่ 18 ราย โดย 17 รายเป็นผู้เดินทางจากต่างประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐกำหนด และ 1 รายติดเชื้อในประเทศ หญิงอายุ 29 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง

ส่วนกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ติดเชื้อจากการดูแลผู้ติดเชื้อในสถานที่กักกันทางเลือก (ASQ) ใน กทม. กรณีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อจากการปฏิบัติหน้าที่ใน ASQ เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์แรกจากที่มีการรับผู้เข้าพักในสถานที่กักกันทุกประเภทกว่า 1.7 แสนคน และมีการเดินทางเข้าประเทศไทยโดยทางบก จากเมียนมา 29 คน มาเลเซีย 43 คน กัมพูชา 20 คน และลาว 57 คน

แม้อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) จะระบุว่าภาพรวมในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ไม่น่ามีปัญหาหนักอกหนักใจ ขณะนี้ที่พบ 47 ราย พบติดในประเทศเพียง 2 ราย ถือเป็นการคุมได้ในวงจำกัดไม่แพร่ระบาดออกไป ขณะที่รัฐได้เปิดศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินโรคโควิด-19 ติดตามสถานการณ์ในส่วนจังหวัดชายแดนทั้งฝั่งมาเลเซีย เมียนมา กัมพูชาและลาว รวมทั้งตรวจสถานบันเทิงในต่างประเทศว่ามีคนไทยทำงานและประสงค์จะกลับเข้าประเทศไทยหรือไม่ หากมีให้ประสานเข้าประเทศตามระบบและเข้าสู่สถานที่กักกันที่รัฐกำหนด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเด็น จ.ท่าขี้เหล็ก ถูกตั้งคำถามว่าทำไมถึงปล่อยปละละเลยให้มีการเดินทางเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติได้แบบเสรี ไร้การควบคุม ทั้งที่ประเทศอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาด

เราเห็นว่าประเด็นนี้ทุกฝ่ายต้องหันมาจริงจังในมาตรการคุมเข้มให้มากขึ้น ที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่าพิษของโควิดสร้างความเสียหายให้ประเทศ เศรษฐกิจอย่างมหาศาลขนาดไหน ขณะที่เรากำลังเริ่มฟื้นคืน ตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณดีขึ้น วัคซีนในต่างประเทศเริ่มส่งเสียงในเชิงบวก แต่ประเทศเรายังคงติดหล่มที่เกิดจากความมักง่าย เห็นแก่ตัว การ์ดตก ดังนั้นทุกฝ่ายต้องร่วมสอดส่อง ช่วยกันดูแลไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกรอบ จนกลับมาซ้ำเติมเศรษฐกิจระลอกใหม่ เราคงไม่อยากกลับไปเห็นประเทศถูกชัตดาวน์อีกครั้ง