สตง.ตรวจ"แผน 20 ปี"กทม. พบ“สวัสดิภาพความปลอดภัย”น่าห่วง

สตง.ตรวจ"แผน 20 ปี"กทม. พบ“สวัสดิภาพความปลอดภัย”ของคนกรุงหลายด้านยังน่าห่วง
เสนอแนะแก้จุดบกพร่อง“ความปลอดภัย” พัฒนาสู่ “มหานครแห่งเอเชีย”
สตง.ตรวจสอบการดำเนินงานตามแผน 20 ปี กทม.พัฒนาสู่ “มหานครแห่งเอเชีย” 6 ด้าน ครั้งที่ 3 พบสวัสดิภาพความปลอดภัยคนกรุงหลายด้านยังน่าห่วง กล้องซีซีทีวีบันทึกไม่ครบทุกจุดติดตั้ง ค้นข้อมูลภาพได้ 70.88% ลานกีฬาผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 12.85%
สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ได้ตรวจสอบการดำเนินงานตามแผนพัฒนาของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ระยะ 20 ปี (ปี 2556-2575) ซึ่งเป็นกรอบในการพัฒนาให้ก้าวสู่การเป็น “มหานครแห่งเอเชีย” ในปี 2575 โดยประกอบด้วย ยุทธศาสตร์สำคัญ 6 ด้าน คือ มหานครปลอดภัย มหานครสีเขียว มหานครสำหรับทุกคน มหานครกะทัดรัด มหานครแห่งประชาธิปไตย และมหานครแห่งเศรษฐกิจและการเรียนรู้
โดยแผนพัฒนาฯ ในระยะที่ 1 (ปี2556 - 2560) มีเป้าหมายให้ กทม.เป็นมหานครปลอดภัย ประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่ ปลอดมลพิษ ปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด ปลอดอุบัติเหตุ ปลอดภัยพิบัติ สิ่งก่อสร้างปลอดภัย และปลอดโรคคนเมือง อาหารปลอดภัย
นายประจักษ์ บุญยัง ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ระบุว่า สตง.ได้ตรวจสอบ 6 ด้าน เพราะตระหนักถึงความสำคัญของสภาพปัญหาด้านความปลอดภัยของ กทม.ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขจำเป็นพื้นฐานของประชาชน ประกอบกับยุทธศาสตร์ด้านมหานครปลอดภัย เป็นเป้าหมายแรกของการพัฒนากรุงเทพฯ และได้ดำเนินงานผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว จึงเลือกตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยวางแผนการตรวจสอบการดำเนินงานแบบต่อเนื่องหลายปี จำนวน 3 ครั้ง
การตรวจสอบการดำเนินงาน มหานครปลอดภัย ด้านปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด และด้านปลอดโรคคนเมือง อาหารปลอดภัย เป็นการตรวจสอบครั้งที่ 2 เพื่อให้ทราบถึงผลการดำเนินงานว่าเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล หรือไม่ และเพื่อให้ทราบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน และให้ข้อเสนอแนะเพื่อนำไปสู่แนวทางการแก้ไขข้อบกพร่องที่อาจเกิดขึ้นต่อไป
1. ด้านปลอดอาชญากรรมและยาเสพติด จากการตรวจสอบการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะและลดจุดเสี่ยงอาชญากรรม พบว่า กทม.มีมาตรการในการลดเงื่อนไขความล่อแหลมของสภาพแวดล้อมต่อการเกิดอาชญากรรม ประกอบด้วย การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่าง การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด การตัดต้นไม้ ทำความสะอาดพื้นที่รกร้างว่างเปล่า และการจัดชุดสายตรวจออกตรวจจุดเสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม หรือสายตรวจตู้เขียว
ปรากกฎว่า มีข้อตรวจพบที่สำคัญ ได้แก่ การบริหารจัดการระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ตั้งแต่ ม.ค.2560 - ก.ย.2561 มีผู้ขอรับบริการสืบค้นข้อมูลภาพจากกล้องฯ จำนวน 8,977 จุดติดตั้ง กทม.มีข้อมูลภาพให้ผู้ขอรับบริการ 6,363 จุดติดตั้ง หรือคิดเป็นร้อยละ 70.88 ของจำนวนจุดติดตั้งที่ขอรับบริการทั้งหมด
นอกจากนี้ จากการสังเกตการณ์การทำงานของระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดแบบบันทึกเหตุการณ์ที่จุดติดตั้ง จำนวน 15 จุดติดตั้ง 59 กล้อง พบว่ามีจุดติดตั้งระบบกล้องฯ ที่สามารถบันทึกภาพได้ครบทุกกล้อง จำนวน 6 จุดติดตั้ง รวม 24 กล้อง หรือร้อยละ 40 ของจำนวนจุดติดตั้งที่สุ่มตรวจสอบ
การดำเนินงานที่ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ สาเหตุสำคัญมาจากขั้นตอนวิธีการควบคุม ตรวจสอบการปฏิบัติงานบำรุงรักษากล้องวงจรปิดไม่รัดกุมเพียงพอ และการกำหนดรูปแบบการรายงานผลการให้บริการสืบค้นข้อมูลภาพยังไม่ครอบคลุมข้อมูลสำคัญบางประการ ทำให้ประชาชนผู้ขอรับบริการสืบค้นข้อมูลภาพสูญเสียโอกาสในการนำข้อมูลภาพเหตุการณ์ไปใช้เป็นหลักฐานสำคัญ และย่อมส่งผลให้ประชาชนใน กทม.ขาดความมั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้
2. ด้านปลอดโรคคนเมือง อาหารปลอดภัย ได้แก่ 2.1 ด้านปลอดโรคคนเมือง จากการตรวจสอบการดำเนินงานเพื่อพัฒนาและยกระดับลานกีฬาในชุมชนให้มีมาตรฐาน พบว่า แม้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทุกกิจกรรม เช่น กิจกรรมจัดบริการลานกีฬาที่ได้มาตรฐาน กำหนดค่าเป้าหมายไว้ร้อยละ 10 ของจำนวนลานกีฬาทั้งหมด 1,206 แห่ง
ผลการดำเนินงานปรากฏว่า มีลานกีฬาที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 155 แห่ง หรือร้อยละ 12.85 ของลานกีฬาทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนค่อนข้างน้อย ขณะที่เป้าหมายในการพัฒนาและยกระดับลานกีฬา กำหนดไว้เพียงในปีงบประมาณ พ.ศ.2556-2558 ทำให้ไม่ต่อเนื่อง
นอกจากนี้ จากการสังเกตการณ์ลานกีฬาในชุมชน พบว่าบางแห่งมีสภาพลานและอุปกรณ์ออกกำลังกายชำรุด เสื่อมสภาพ บางแห่งไม่สามารถจัดกิจกรรมด้านกีฬาและนันทนาการได้ต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญมาจาก กทม.มีข้อจำกัดในทางปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องกรรมสิทธิ์ หรือการยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้พื้นที่จัดตั้งลานกีฬา ประกอบกับไม่ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนา เพื่อยกระดับลานกีฬาให้ได้มาตรฐานไว้อย่างชัดเจน ฯ
ทำให้ผู้มาใช้บริการมีความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยจากการร่วมกิจกรรมการออกกำลังกายและนันทนาการ รวมทั้งประชาชนในชุมชนไม่สามารถใช้ประโยชน์จากลานกีฬา ซึ่งเป็นสถานที่ออกกำลังกายที่อยู่ในแหล่งชุมชนใกล้ที่พักอาศัยได้
2.2 ด้านอาหารปลอดภัย จากการตรวจสอบการดำเนินงาน โครงการกรุงเทพฯ เมืองอาหารปลอดภัยเพื่อส่งเสริมการตรวจเฝ้าระวังคุณภาพอาหาร และการรับรองมาตรฐานสถานประกอบการอาหารภายใต้แผนพัฒนากรุงเทพฯ ระยะ 20 ปี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 พบว่าผลการดำเนินงานโครงการเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทุกกิจกรรม
เช่น กิจกรรมเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงการระบาดของโรคและการปนเปื้อนสารพิษของอาหารและน้ำ กำหนดเป้าหมายในการตรวจวิเคราะห์ด้านจุลินทรีย์ ร้อยละ 78 ของตัวอย่างอาหาร 2,700 ตัวอย่างที่สุ่มตรวจทางห้องปฏิบัติการ ต้องไม่พบการปนเปื้อนเชื้อโรค ผลปรากฏว่ามีตัวอย่างที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบ 2,254 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 83.48 ที่สุ่มตรวจสอบ
จากการตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักงานเขต 4 แห่ง และสังเกตการณ์การปฏิบัติงานตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร พบว่าการดำเนินงานเพื่อตรวจเฝ้าระวังคุณภาพอาหารของ กทม.ยังไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ดังนี้
1. สำนักงานเขต 4 แห่ง ไม่มีการกำหนดแผนปฏิบัติงานตรวจสอบเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงการระบาดของโรคและการปนเปื้อนสารพิษของอาหารและน้ำครอบคลุมสถานประกอบการอาหารที่ไม่มีใบอนุญาตหรือหนังสือรับรองการแจ้งตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่องสถานที่จำหน่ายอาหารและสถานที่สะสมอาหาร พ.ศ.2545 ซึ่งร้านอาหารบางแห่งได้เปิดดำเนินกิจการและมีสถานที่ตั้งถาวรเป็นอาคารพาณิชย์
2. สำนักงานเขต 3 แห่ง เก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์ความปลอดภัยอาหารไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนด 3. การเก็บและสุ่มตัวอย่างประเภทภาชนะสัมผัสอาหารเพื่อตรวจวิเคราะห์ด้านจุลินทรีย์ด้วยชุดตรวจหาโคลิฟอร์มแบคทีเรียเบื้องต้น ของสำนักงานเขต ยังไม่สอดคล้องตามคู่มือการใช้ชุดทดสอบ
การดำเนินงานที่ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ มีสาเหตุสำคัญมาจากสำนักงานเขตไม่ได้สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลสถานประกอบการอาหารทั้งหมด ที่เปิดดำเนินกิจการในพื้นที่ กทม. หน่วยปฏิบัติในพื้นที่ยังมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับวิธีการเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหาร เป็นต้น อาจส่งผลให้เกิดความไม่เชื่อมั่นในผลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารของกทม.และประชาชนอาจไม่มั่นใจว่าอาหารมีความปลอดภัย ปราศจากเชื้อโรค สารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพหรือไม่
จากผลการตรวจสอบดังกล่าว สตง.จึงมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่รับผิดชอบพิจารณาดำเนินการปรับปรุงแก้ไข อาทิ พิจารณาทบทวนการปรับปรุงขั้นตอนการควบคุม ตรวจสอบการปฏิบัติงานบำรุงรักษาระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิดให้เกิดความรัดกุม พิจารณากำหนดตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย และแผนการพัฒนาปรับปรุงเพื่อยกระดับลานกีฬาของหน่วยปฏิบัติเป็นรายปีอย่างต่อเนื่อง ทบทวนและปรับปรุงแนวทางในการสุ่มตัวอย่างเพื่อตรวจวิเคราะห์คุณภาพอาหารทางด้านเคมี และจุลินทรีย์ในอาหาร ภาชนะอุปกรณ์ และมือผู้สัมผัสอาหารให้สอดคล้องกับคู่มือการใช้ชุดทดสอบอาหารของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ฯลฯ







