ททท.เล็งปั่นกระแส "บังคับเที่ยว" ฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย คาดปี 65 กู้รายได้รวมคืน 80% แตะ 2.5 ล้านลบ.

ททท.เล็งปั่นกระแส "บังคับเที่ยว" ฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย คาดปี 65 กู้รายได้รวมคืน 80% แตะ 2.5 ล้านลบ.

“ททท.” ลุยทำแผนฟื้นฟูท่องเที่ยว 2 ปี คาดปี 65 ทำรายได้รวม 2.5 ล้านล้านบาท กู้คืนได้ 80% จากปี 62 ก่อนเจอวิกฤติโควิด ชี้ปี 64 ปัจจัยด้านการท่องเที่ยวยังแกว่ง ปรับกลยุทธ์ปั่นกระแสตลาดในประเทศด้วยการ “บังคับเที่ยว” กระตุ้นกลุ่มประชุมสัมมนา

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.จะประชุมวางเป้าหมายแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ปี 2564-2565 เพื่อปลุกภาคท่องเที่ยวไทยจากเถ้าถ่านให้เกิดใหม่เหมือนนกฟีนิกซ์ (Pheonix Plan) หนุนปี 2565 สามารถกู้รายได้รวมของท่องเที่ยวไทยกลับมาอยู่ที่ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของรายได้รวมปี 2562 ก่อนเจอวิกฤติโควิด-19 ซึ่งสร้างรายได้กว่า 3 ล้านล้านบาท

“เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ททท.ยังต้องมุ่งผลักดันรายได้ตลาดท่องเที่ยวในประเทศปี 2564 ด้วยแนวคิดบังคับเที่ยว เช่น กระตุ้นกลุ่มจัดประชุมอบรมสัมมนาให้เดินทางมากขึ้น เพื่อปรับสมดุลระหว่างดีมานด์กับซัพพลาย โดยรายได้รวมท่องเที่ยวที่คาดว่าจะกลับมาเป็น 2.5 ล้านล้านบาทในปี 2565 จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาเพียง 50% เมื่อเทียบปี 2562 และตลาดที่กลับมากลุ่มแรกน่าจะเป็นยุโรปที่จะเริ่มเข้ามาช่วงกลางปี 2564 หลังมีความชัดเจนเรื่องวัคซีน”

ทั้งนี้ภาคท่องเที่ยวจะยังเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยยังครองสัดส่วนประมาณ 20% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี เหมือนก่อนที่จะเกิดวิกฤติโควิด ททท.จึงจัดทำแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยวด้วยการนำคาดการณ์เศรษฐกิจจากทั้งสำนักงานพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ซึ่งประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวชัดเจนในปี 2565

“การฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรมน่าจะเห็นชัดในปี 2565 เป็นต้นไปมากกว่า เนื่องจากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวต่างชาติน่าจะอัดอั้นหลังไม่ได้เดินทางต่างประเทศมาเกือบ 2 ปี แต่จำนวนในระยะเบื้องต้นอาจมีไม่มาก เพราะต้องค่อยๆ ฟื้นความมั่นใจ”

ส่วนการฟื้นตัวในปี 2564 คาดการณ์ว่ายังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบหลายอย่างทำให้ฟื้นตัวช้า จำนวนนักท่องเที่ยวปีหน้าอาจไม่มีการเปลี่ยนแปลง จึงถือเป็นปีแห่งการปรับฐาน และฟื้นความเชื่อมั่นมากกว่า เนื่องจากตลาดใหญ่ เช่น จีน ได้ส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่าจะไม่สนับสนุนให้คนเดินทางออกจนกว่าจะมีความเชื่อมั่นว่าประชากรชาวจีนได้รับวัคซีนและมีผลลัพธ์ที่ดีในการป้องกันโรคโควิด-19

“จากการที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท.ได้เข้าพบนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับการบอกกล่าวที่ชัดเจนว่าทางจีนจะพร้อมให้นักท่องเที่ยวเดินทางออกนอกประเทศในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์ได้ก็ต่อเมื่อมั่นใจในความปลอดภัย และมีวัคซีนป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ผู้ว่าการ ททท.กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการต่ออายุโครงการเราเที่ยวด้วยกัน จะเสนอต่อที่ประชุม ศบศ.ในวันที่ 2 ธ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเพิ่มสิทธิที่พักอีก 1-2 ล้านสิทธิ โดยข้อมูลวานนี้ (26 พ.ย.) มีสิทธิที่พักคงเหลือประมาณ 1.1 ล้านสิทธิ จากโควตาเฟสแรก 5 ล้านสิทธิ ก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป