"อสป."เตรียมตั้งบริษัทลูก บริหารธุรกิจ"สะพานปลา"

"อสป."เตรียมตั้งบริษัทลูก บริหารธุรกิจ"สะพานปลา"

อสป.เล็งอัดงบ 1.5 หมื่นล้าน ใช้อ่างศิลาโมเดล ยกเครื่องสะพานปลา แก้พรบ. ตั้งบริษัทลูก เป็นเทรดเดอร์ ซื้อขายสัตว์น้ำ ดันกระจายหุ้นเข้าจดทะเบียนตลท.

นายมณเฑียร อินทร์น้อย ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา (อสป.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอแผนพัฒนาสะพานปลา อสป. ที่มีจำนวน 18 แห่งทั่วประเทศ ให้เป็นตลาดปลาทันสมัย รองรับธุรกิจทั้งค้าขายสินค้าประมง และรองรับนักท่องเที่ยวภายใต้นโยบายย้ายทะเลขึ้นเหนือ ภายใต้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท หรือ งบลงทุนประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อแห่ง

โดยเตรียมแก้ พระราชบัญญัติองค์การสะพานปลา พ.ศ.2525 เพื่อให้มีการตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อสามารถดำเนินการ เป็นเทรดเดอร์ สามารถซื้อขายสัตว์น้ำได้ และต้องดำเนินการเพื่อบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดมูลค่าสูงสุด เพื่อเป้าหมายกระจายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อย และนำแปรรูปเป็นเอกชน เพื่อเข้าบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.)

“งบประมาณที่จะลงทุน 15,000 ล้านบาทจะสร้างสะพานปลาใน5 จังหวัดทั่วประเทศ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ขอนแก่น พิษณุโลก เป็นต้น จะใช้วิธีการเดียวกับ กลยุทธ์การทำงานปี 2563 คือบริหารสินทรัพย์ที่มี ร่วมกับคู่ค้า พันธมิตร ร้านค้า ที่ต้องการร่วมลงทุนกับ อสป. โดยการเก็บเงินเหมือนเงินดาวน์ เงินเกี๊ยว มาใช้ก่อน เพื่อลงทุนร่วมกัน”

160569685595

สำหรับปี 2564 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ หลักหักค่าใช้จ่ายประมาณ 100 ล้านบาท ด้วยกลยุทธ์ การบริหารสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์ นำสะพานปลาที่มีมาพื้นฟู โดยใช้โมเดล ท่าเทียบเรือประมงอ่างศิลา มาใช้กับทุกสะพานปลาทั่วประเทศ เพื่อให้แต่ละแห่งสามารถสร้างกำไรให้ อสป.

ทั้งนี้ ท่าเทียบเรือประมงอ่างศิลา ตั้งอยู่ริมทะเล หมู่ที่ 4 ตำบลอ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี โครงการนี้จะพัฒนาเป็นตลาดสินค้าสัตว์น้ำที่มีมาตรฐานถูกสุขอนามัย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าเกษตร และสินค้าประมง ยกระดับรายได้อาชีพชาวประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์และผู้ค้าสัตว์น้ำในชุมนุม ส่งเสริมเศรษฐกิจเป็นแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 328 ร้านค้า คาดว่าเปิดดำเนินการในเดือนม.ค.2564

ส่วน ปี 2563 อสป.มีรายได้กว่า 200 ล้านบาท หลังหักค่าใช้จ่าย มีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท เป็นกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี หลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อไตรมาส 2 ปี 2562 ที่เป็นยุค ที่อสป.ถูกตัดงบประมาณจากภาครัฐ เนื่องจากปี2561-2562 เบิกจ่ายงบประมาณได้เพียง 26% ของงบทั้งหมด

160569710196

ดังนั้นเมื่อเข้ารับตำแหน่งในช่วงที่ถูกตัดงบประมาณ สิ่งที่ต้องดำเนินการคือปรับโครงสร้างการทำงาน เน้นธุรกิจที่เป็นรายได้ของ อสป. คือ บริหารสะพานปลา เป็น ศูนย์กลางให้ชาวประมงซื้อขายสินค้าสัตว์น้ำ ที่มี 18 แห่งทั่วประเทศ ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มเป็น 45% รายได้จากค่าเช่าพื้นที่ 30% และรายได้อื่นๆอีกประมาณ 25%

“จากแผนปี 2563 อสป.ตั้งประมาณการกำไรไว้ที่ 6 ล้านบาท หลังจากมีสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อสป.ก็ปรับประมาณการขาดทุนประมาณ 20 ล้านบาท แต่หลังจากตนเข้ามารับตำแหน่งได้รื้อโครงสร้างการทำธุรกิจ โดยสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้กับสะพานปลาที่มี ส่งผลให้พลิกจากขาดทุนเป็นกำไรสุงสุดในรอบ 20 ปี”

นายมณเฑียร กล่าวว่า เพื่อให้สะพานปลาแต่ละแห่งมีมาตรฐานที่สอดคล้องกับมาตรการการทำประมงผิดกฎหมายขาดการรายงานและไร้ควบคุม หรือ ไอยูยู  องค์การสะพานปลาได้ตรวจสอบฟอร์มาลีนในสัตว์ของสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมง โดยใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีการขนถ่ายสตว์น้ำ ในระบบตรวจสอบย้อนกลับ และมาตรฐานสุขอนามัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค สินค้าที่สะพานปลาและท่าเทียบเรือประมงขององค์การสะพานปลามีมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่ดี สินค้าสัตว์น้ำสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างเป็นระบบและปลอดภัยจากสารฟอร์มาลีน โดยทำการสุ่มตรวจสารฟอมาร์ลีนในตัวอย่างสินค้าสัตว์น้ำ เป็นการเฝ้าระวังสารดังกล่าวที่จะมีการผสมหรือปนเปื้อนในสินค้าสัตว์น้ำที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้

“ ฟอร์มาลีนนอกจากจะตรวจพบในปลาแล้ว บางรายยังมีปนมากับน้ำแข็งและกล่องบรรจุภัณฑ์ ด้วย ทั้งหมดนี้ต้องไม่เกิดขึ้นกับสินค้าสัตว์น้ำที่ต้องการนำมาขึ้นที่สะพานปลาของ อ.ส.ป. ”