ปศุสัตว์ OK โรค PRRS ในหมูไม่ติดคน

ปศุสัตว์ OK โรค PRRS ในหมูไม่ติดคน

กรมปศุสัตว์ ยืนยัน PRRS เกิดเฉพาะในหมู ไม่ติดต่อคน ย้ำผู้บริโภคทานหมูได้อย่างปลอดภัย เน้นเลือกซื้อจากแหล่งมาตรฐาน สังเกต "ปศุสัตว์ OK"

นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการระบาดของโรค PRRS ซึ่งเป็นโรคหรือกลุ่มอาการในระบบสืบพันธุ์และระบบทางเดินหายใจเฉพาะในสุกรว่า ที่ผ่านมาได้สั่งการให้หน่วยงานของ   กรมปศุสัตว์ โดยปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ และชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ ในทุกพื้นที่ของไทย ติดตามสถานการณ์โรคในสัตว์อย่างใกล้ชิด พร้อมดำเนินมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการสุ่มตรวจตามพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

  160525520944

 โดยเฉพาะตามแนวชายแดนทั่วประเทศ ขณะเดียวกันเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร ต่างตื่นตัวในการดูแลสุขภาพสัตว์และการป้องกันโรคสัตว์มาโดยตลอด เมื่อพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นในฟาร์มเลี้ยง จึงเร่งประสานเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เข้าตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ทำให้การป้องกันโรคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนสามารถควบคุมสถานการณ์ของโรคได้เป็นอย่างดี

ขอยืนยันว่าโรค PRRS เป็นโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะในหมู ไม่สามารถแพร่สู่คนได้ และกรมปศุสัตว์ได้ดำเนินการควบคุมและป้องกันโรคในพื้นที่ที่ตรวจพบ ที่สำคัญผู้บริโภคสามารถรับประทานเนื้อหมูได้อย่างปลอดภัย เน้นการเลือกซื้อจากผู้ผลิตที่มีมาตรฐาน สังเกตสัญลักษณ์ "ปศุสัตว์ OK" ที่กรมปศุสัตว์มอบให้กับจุดจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์กว่า 7,000 แห่ง

160525524085

ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มา ตั้งแต่ต้นทางที่ฟาร์มเลี้ยงจนถึงมือผู้บริโภค สำคัญที่สุดคือการปรุงสุกทุกครั้ง ไม่ทานดิบ หรือสุกๆดิบๆ เพื่อสุขอนามัยที่ดี ลดความเสี่ยงทั้งเรื่องอาหารเป็นพิษ ท้องร่วง หรือไข้หูดับ" อธิบดี กรมปศุสัตว์ กล่าว

ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 กำหนดไว้ว่า หากกรณีที่เกิดโรคระบาดในสัตว์ จะต้องให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์เร่งแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์แต่ละจังหวัด เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับโรคระบาด โดยกรมปศุสัตว์จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและส่งตัวอย่างซากสัตว์มาทำการชันสูตรโรคสัตว์ทางห้องปฏิบัติการ ในห้องปฏิบัติการ 8 แห่งทั่วประเทศ ว่าโรคที่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุใด โดยใช้เวลาไม่เกิน 5 วัน ในการสรุปผลตรวจ สำหรับผู้ที่พบปัญหาด้านโรคสัตว์และสินค้าปศุสัตว์ สามารถติดต่อกับกรมปศุสัตว์ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านแอพลิเคชัน "DLD 4.0" เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างทันท่วงที