'คุมโควิดรอบใหม่'ตั้งแต่จีนถึงยุโรป

'คุมโควิดรอบใหม่'ตั้งแต่จีนถึงยุโรป

ยุโรปออกมาตรการควบคุมชุดใหม่ หวังสกัดโควิดระบาดรอบสอง ขณะที่ความหวังจะได้วัคซีนอย่างรวดเร็วอ่อนแรงลง หลัง 2 บริษัทประกาศระงับการทดลองทางคลินิกในสหรัฐ

ความหวังว่าจะได้วัคซีนอย่างรวดเร็วเริ่มลดน้อยลง เมื่อบริษัทยาสหรัฐ “เอลี ลิลลี” เผยว่า ระงับการทดลองรักษาด้วยแอนติบอดีระยะ 3เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย นับเป็นบริษัทที่ 2 ในรอบไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสันประสบปัญหาคล้ายๆ กัน

ในยุโรป เนเธอร์แลนด์ออกคำสั่งล็อกดาวน์บางส่วน ควบคุมการติดเชื้อเพิ่มสูงสุดครั้งหนึ่งของยุโรป สั่งปิดบาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารทุกแห่ง ผู้ที่มีอายุ 13 ปีขึ้นไปต้องสวมหน้ากากเมื่ออยู่ในสถานที่ปิด

ในอังกฤษ นายเคียร์ สตาร์เมอร์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน “แรงงาน” เรียกร้องให้ล็อกดาวน์ตัดวงจร 2-3 สัปดาห์เพื่อชะลออัตราการติดเชื้อ พร้อมกล่าวหาว่ารัฐบาลไม่สนใจมาตรการฉุกเฉินที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำไว้เมื่อวันที่ 21 ก.ย.

คืนนี้คาดว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส จะประกาศมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้นและการตรวจหาเชื้ออย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ชาวเน็ตเก็งกันว่า ปารีสและอีกหลายๆ เมืองต้องเคอร์ฟิวในยามค่ำคืน

ขณะที่จีนสั่งตรวจหาเชื้อประชากรทุกคนในเมืองชิงเต่า หลังพบผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (11 ต.ค.) ถึงวันนี้ตรวจแล้วกว่า 4 ล้านคน ทราบผล 1.9 ล้านคนเมื่อบ่ายวานนี้ (13 ต.ค.) ทางการเผยว่า ยังไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มเติม ทั้งนี้ จีนตั้งใจตรวจเชื้อทั้งชิงเต่า ที่มีประชากรราว 9.4 ล้านคนให้เสร็จสิ้นภายในวันพฤหัสบดี (15 ต.ค.)

แม้การทดลองวัคซีนต้องหยุดชะงักลง ธนาคารโลกยังอนุมัติเงิน 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้ประเทศกำลังพัฒนาใช้ซื้อและแจกจ่ายวัคซีน ตรวจหาเชื้อ และการรักษา

ความเคลื่อนไหวของธนาคารโลกเกิดขึ้นหลังจากองค์กรการกุศล “ออกซ์แฟม” เตือนให้ระวัง “ความอดอยากจากโควิด” เนื่องจากประชาคมโลกแก้ปัญหาความไม่มั่นคงด้านอาหารของโลกน้อยมาก

ด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจถดถอยผลพวงจากโควิดรุนแรงน้อยกว่าที่กลัวกันตอนแรก แต่จีดีพีโลกยังคงหดตัว 4.4% การฟื้นตัวต้องใช้เวลาอีกนาน ฟื้นแบบไม่เท่าเทียมกัน และความไม่แน่นอนสูง