สถานการณ์น้ำ แม่น้ำเพชรบุรี 'กรมชลฯ' เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว

สถานการณ์น้ำ แม่น้ำเพชรบุรี 'กรมชลฯ' เร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว

"กรมชลประทาน" มั่นใจเครื่องผลักดันน้ำ จะช่วยเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว ลดความหวั่นวิตก มวลน้ำใหญ่ที่จะไหลผ่าน จุดวิกฤตงานก่อสร้างรางรถไฟขวางทางน้ำ

เมื่อเวลา 17.00 น.วันนี้ (11 ต.ค.63) นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทน อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ได้เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ตลอดสองวันที่ผ่านมา ส่งผลปริมาณน้ำสูงสุดที่บริเวณ หน้าเขื่อนเพชร ซึ่งทางชลประทานได้มีการผันน้ำเข้าช่องทางต่างๆ เพื่อการระบายน้ำ และจากความกังวลของประชาชนหากมวลน้ำที่ระบายมาสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในปริมาณน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ผ่านตรงจุดบริเวณสะพานดำที่ถือว่าเป็นจุดวิกฤต จุดเสี่ยงเนื่องจากมีงานก่อสร้างรางรถไฟทางคู่ ขวางทางน้ำ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการไหลของน้ำ ซึ่งหลายภาคส่วนได้อำนวยความสะดวก ที่จะช่วยเร่งในการระบายน้ำ

ขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ในพื้นที่ ต.บางตะบูน เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเลโดยเร็ว พร้อมเฝ้าระวังดูสภาวะน้ำว่ามีการไหลของน้ำหรือการยกตัวขึ้นอย่างไร โดยทางกรมชลประทานได้ส่งเครื่องจักรเครื่องมือและรถแบ็คโฮเพื่อปฏิบัติงานร่วมกับทางจังหวัดที่กำลังเก็บวัชพืช ผักตบชวา กิ่งไม้ สิ่งกีดขวางทางน้ำอยู่ตลอดเวลา ที่จะเร่งการระบายได้ดี และยังได้นำเครื่องสูบน้ำ เพื่อรอให้ความช่วยเหลือบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนั้น รักษาราชการแทน อธิบดีกรมชลประทานได้ให้ความอุ่นใจประชาชน ว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในพื้นที่ต้นน้ำไม่ว่าจะเป็นเขื่อนแม่ประจัน หรือเขื่อนทางแก่งกระจาน วันนี้ไม่มีน้ำและน้ำลงต่ำกว่าตลิ่งหมดแล้วน้ำที่จะมีผลกระทบคือมวลน้ำก้อนนี้ก้อนเดียวจะมีน้ำไหลผ่านบริเวณสะพานดำ อยู่ในเกณฑ์ 100 ลูกบาศก์เมตร/วินาที หรือระดับประมาณ 4.15 เมตร ยังคงเหลือ พื้นที่ประมาณ 1.20 เมตร ถือว่ายังรับมือกับมวลน้ำได้อยู่พอสมควร