เช็คความพร้อม กทม.รับมือพายุเข้าไทย 7-9 ต.ค.

รายงานข่าวจากศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กทม.ได้พร่องน้ำในคลองสายหลัก เพื่อรองรับพายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งมีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 7 - 9 ต.ค.นี้ ภายหลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเมื่อเวลา 04.00 น. พายุระดับ 2 (ดีเปรสชัน) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมิน ประเทศเวียดนามทางตะวันออกประมาณ 470 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้เกือบไม่เคลื่อนที่และคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้ในวันนี้ หลังจากนั้นจะเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ต.ค. 63

พายุนี้จะมีผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึกรุงเทพฯ ซึ่งจะทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในช่วงวันที่ 7 - 9 ต.ค. ดังนั้นสำนักการระบายน้ำ มีความจำเป็นต้องทำการลดระดับน้ำในคลองสายหลักให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าวที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ กทม. แต่อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อการเดินเรือโดยสาร เช่น คลองแสนแสบ จึงขออภัยในความไม่สะดวกในครั้งนี้

นอกจากนี้ นายศักดิ์ชัย บุญมา รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่สำนักการระบายน้ำ สำนักการโยธา สำนักเทศกิจ สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองโรงงานช่างกล สำนักการคลัง ประธานกลุ่มการปฏิบัติงานของสำนักงานเขต 6 กลุ่มเขต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะสำนักการระบายน้ำจะจัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำจุดเสี่ยงน้ำท่วม สำรวจและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม ลดระดับน้ำในคลอง แก้มลิง บ่อสูบน้ำ เพื่อเตรียมรองรับปริมาณน้ำฝน รวมถึงจะรายงานสถานการณ์ฝน สภาพอากาศจากศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนพื้นที่รอยต่อระหว่างพื้นที่สาธารณะกับพื้นที่เอกชน ซึ่ง กทม.ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างเต็มที่จนเกิดเหตุปัญหาน้ำท่วมขัง จึงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ เตรียมความพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งเตรียมเครื่องสูบน้ำชนิดเคลื่อนที่ พร้อมให้การสนับสนุนในกรณีที่มีการร้องขอด้วยเหตุจำเป็นหรือเครื่องมือของหน่ายงานต่างๆ ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกัน ให้ประสานหน่วยงานที่กำลังมีการก่อสร้าง เช่น กรมทางหลวง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผู้รับผิดชอบและผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทั้ง 6 สาย ให้ล้างทำความสะอาด กำจัดสิ่งอุดตันท่อระบายน้ำหรือกีดขวางทางน้ำ เพื่อให้น้ำฝนสามารถระบายลงสู่คลองในพื้นที่ได้อย่างคล่องตัวและรวดเร็ว