คกก.เมดิคัลฮับเห็นชอบชงเปิด 4 สนามบินรับต่างชาติบินตรงรักษา

คกก.เมดิคัลฮับเห็นชอบชงเปิด 4 สนามบินรับต่างชาติบินตรงรักษา

คกก.นโยบายเมดิคัลฮับ เห็นชอบเปิด 4 สนามบินรับไฟลท์ตรงจากต่างประเทศกลุ่มเข้ารักษา ชงศบค.พิจารณา เผย “AHQ”รับคนเข้ารักษาแล้วนับ 1 พันราย สร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จ่อเข้าอีกกว่า 2 พันราย พร้อมขับเคลื่อน “”WQ“สปากักตัวคาดสร้างรายได้ระยะแรก 195 ล้านบาท

ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเพื่อพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพนานาชาติ(นโยบายเมดิคัลฮับ:Medical Hub) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมฯคณะกรรมการฯว่า ได้มอบหมายให้ตั้งคณะทำงานร่วม 3 กระทรวง คือ สธ. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ให้เกิดความคล่องตัว เพื่อกำกับดูแล ประเมินการดำเนินกิจกรรมให้เป็นรูปธรรมากยิ่งขึ้น และนโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากตนเป็นรองนายกฯที่รับผิดชอบใน 3 กระทรวงนี้อยู่แล้ว

ด้านนพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กล่าวว่า คณะกรรมการฯรับทราบและเห็นชอบในหลักการ 4 เรื่องหลัก ได้แก่ 1. แนวทางการดำเนินการทางอากาศ ซึ่งขณะนี้มีการเปิดดำเนินการแล้ว 2 สนามบินคือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง โดยที่ประชุมรับในหลักการเปิดสนามบินเพิ่มเติมอีก 4 แห่งเพื่อรับผู้เดินทางจากต่างประเทศในลักษณะบินตรง คือ สนามบินสมุย ภูเก็ต เชียงใหม่ และอู่ตะเภา โดยจะเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19(ศบค.)พิจารณาต่อไป โดยจะเปิดรับผู้ป่วยที่ประสงค์จะบินตรงเพื่อเข้ารับการรักษาที่พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งอาจจะมีความเชี่ยวชาญในบางโรค ทั้งนี้ แนวทางวิธีการดำเนินการเปิดรับผู้เข้ารับการรักษาจะมีขั้นตอนการอนุญาตให้เข้ามาเหมือนกับที่ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง

2.การดำเนินการสถานที่กักตัวโรงพยาบาลทางเลือกในสถานที่รัฐกำหนด(Alternative Hospital Quarantine:AHQ) ซึ่งขณะนี้มีการผู้เดินทางเข้ามากักตัวประเภทนี้แล้ว 1,123 คน แยกเป็น ผู้ป่วย 652 คน และผู้ติดตาม 471 คน สร้างรายได้เข้าประเทศราว 114 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการขออนุญาตเข้าประเทศอีกราว 2,220 คน จะสร้างรายได้เข้าประเทศอีกกว่า 100 ล้านบาทเช่นกัน รวมถึงประมาณการที่จะเดินทางเข้ามาอีกกว่า 3,000 ราย สร้างรายได้กว่า 300 ล้านบาท และจะมีการต่อยอดโปรแกรมเสริมเรื่องของการShopping online ซึ่งผนวกร่วมกับของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อให้ผู้ป่วยและผู้ติดตามได้ซื้อสินค้า นอกจากนี้ ได้ทำเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหลังครบำหนดกักตัว 14 วันด้วย

3.สถานที่กักตัวในสปา รีสอร์ท(Well ness Quarantine:WQ) ซึ่งศบค.ชุดเล็ได้เห็นชอบในหลักการแล้ว อยู่ระหว่างที่สบส.มาดำเนินการจัดทำแนวทาง โดยแนวทางจะเหมือนกับสถานที่กักตัวอื่นๆ ที่จะต้องเลือกประเทศต้นทาง นัดล่วงหน้ากับสปารีสอร์ทและตรวจโควิด19จำนวน 3 ครั้ง รวมถึง กลุ่มผู้ที่เข้ามาอยู่ในลักษณะระยะยาว(Long-term Care) ซึ่งประมาณการผู้เดินทางจาก2ลักษณะนี้ราว 5,000 คน คาดการว่าจะสามารถสร้างรายได้ราว 195 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีการเสนอให้เพิ่มส่วนของสนามกอล์ฟเป็นสถานที่กักตัว เพื่อให้เฉพาะกลุ่มนักกอล์ฟเข้าใช้บริการด้วย และ4.โครงการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นเมดิคัลฮับนานาชาติในส่วนของภาคใต้ฝั่งตะวันตก