พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 'ณรงค์ วงศ์วรรณ'

พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 'ณรงค์ วงศ์วรรณ'

ญาติเตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ "ณรงค์ วงศ์วรรณ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี เจ้าของตำนาน “ว่าที่นายกรัฐมนตรี” หลังถึงแก่อนิจกรรมวัย 94 ปี

วันที่ 11 กันยายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วงศ์วรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ได้ถึงแก่อนิจกรรมในวัย 94 ปี ด้วยโรคชรา ในคืนวันที่ 10 กันยายน 2563 เวลา 23.01 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

สำหรับบรรยากาศที่บ้านพักของนายณรงค์ วงศ์วรรณ บ้านเลขที่ 436/2 ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ลูกหลานและญาติ ได้ร่วมกันจัดเตรียมสถานที่ในการประกอบพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพในวันที่ 12 กันยายน 2563 เวลา 17.30 น. และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานโกฏแปดเหลี่ยมฉัตรเบญจาตั้งประดับ ปี่ กลองชนะประโคมเวลาพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ

นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ บุตรชายของนายณรงค์ วงศ์วรรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติกำลังช่วยกันจัดเตรียมงานพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ซึ่งนับเป็นพระกรุณามหาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ส่วนนักการเมืองหลายๆคนได้ร่วมแสดงความเสียใจมาบ้างแล้ว ส่วนจะมีคนใดมาร่วมงานบ้าง ตรงนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด เพราะกำลังอยู่ในช่วงเตรียมงาน

สำหรับ นายณรงค์ วงศ์วรรณ เกิดวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ.2468 บุคคลทั่วไปนิยมเรียกว่า ‘’พ่อเลี้ยงณรงค์‘’ แห่งจังหวัดแพร่ อดีตเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ,รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2 สมัย , รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของพล.อ.สุจินดา คราประยูร

ทั้งนี้ ในการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 22 มีนาคม 2535 พรรคสามัคคีธรรมได้รับการเลือกตั้งเข้ามามากที่สุด จำนวน 79 คน เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่นายณรงค์ วงศ์วรรณ หัวหน้าพรรค กลับไม่สามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ หลังจากนางมาร์กาเร็ต แท็ตไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาออกมาประกาศว่านายณรงค์ เป็นหนึ่งในบัญชีดำ ผู้ไม่สามารถขอวีซ่าเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับการค้ายาเสพติด

พรรคร่วมเสียงข้างมาก ซึ่งประกอบด้วยพรรคสามัคคีธรรม พรรคชาติไทย พรรคกิจสังคม พรรคประชากรไทยพรรคราษฎร จึงสนับสนุนให้พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 19 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พล.อ.สุจินดา เคยประกาศว่า จะไม่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกล่าวในเวลาต่อมาว่า จำเป็นต้อง “เสียสัตย์เพื่อชาติ” โกหกประชาชนอย่างหน้าด้านๆ จนเป็นสาเหตุทำให้ประชาชนเรียกร้องนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นชนวนเหตุพฤษภาทมิฬ ในเวลาต่อมา