กยท. เสนอครม.จ่าย2.4พันล. เพิ่มเติมประกันรายได้ระยะ1

กยท. เสนอครม.จ่าย2.4พันล. เพิ่มเติมประกันรายได้ระยะ1

กยท. เสนอครม.วันนี้ (18 ส.ค.) อนุมัติ 2,400 ล้านบาทค้างจ่ายโครงการประกันรายได้ระยะที่ 1 หวังจบโครงการในปีงบ 63 ก่อน ดันโครงการระยะ2 ในปีต่อไป 35,000 ล้านบาท เล็งผุด Rubber Valleyอาณาจักรยางครบวงจร

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย(กยท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้( 18 ส.ค.) จะมีการพิจารณางบประมาณโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 1 อีก 2,400 ล้านบาท เพิ่มเติมจากที่เคยอนุมัติไปก่อนหน้านี้ 25,000 ล้านบาท เนื่องจากยังค้างจ่ายกับเกษตรกรบางส่วน ส่งผลให้ไม่สามารถปิดโครงการฯระยะที่ 1 ได้ ซึ่งกยท. มีเป้าหมายที่จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ 2563 นี้ ดังนั้นหากครม.เห็นชอบงบประมาณดังกล่าว ก็จะเร่งรัดเบิกจ่ายทันที ซึ่งโครงการฯระยะที่ 1 นั้นดำเนินการไปแล้วกว่า 98-99 %

สำหรับโครงการประกันรายได้ระยะที่ 2 วงเงินเบื้องต้นอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท ซึ่งจะพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีงบประมาณ 2564 แต่ทั้งนี้เมื่อราคายางพาราปรับเพิ่มขึ้น ก็คาดว่าจะทำให้การชดเชยมีวงเงินที่ลดลงตาม ซึ่ง กยท.จะพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นประโยชน์ทั้งภาครัฐและเกษตรกรต่อไป

ทั้งนี้ มาตรการแก้ไขปัญหายางพาราโดยรวม รัฐบาลหวังให้มีการยกระดับการพัฒนายางทั้งระบบครบวงจร ให้ดีขึ้นกว่าอดีตที่ผ่านมา ทั้งในด้านการผลิต การแปรรูป และการตลาด เพื่อให้ไทยเป็นประเทศที่ยังคงรักษาสถานะผู้นำการผลิตและผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก มีศักยภาพในการแข่งขันด้านยางพาราในระดับโลกและมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้สูงขึ้น ตลอดจนช่วยสนับสนุนการจ้างงานในภาคอุตสาหกรรมยางและเป็นสินค้าหลักที่สร้างรายได้เข้าสู่ประเทศ

โดย กยท. มี แผนเกิดการสร้างRubber Valleyที่ จ. นครศรีธรรมราช เพื่อดึงนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่และใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการแปรรูปยางพารา ซึ่งกยท.มีพื้นที่พร้อมพัฒนาอยู่แล้ว 41,000 ไร่ อีกทั้ง ยังเป็นพื้นที่ปลูกยางจำนวนมากเกษตรกรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวสวนยาง มีตลาดกลางยางพาราในการประมูลซื้อขายยางพาราอยู่ในพื้นที่ เป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางการค้าที่สำคัญของภาคใต้ เป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานผลิตภัณฑ์ยางชั้นนำของภูมิภาค ซึ่งเหมาะสมในการส่งเสริมให้เป็นแหล่งธุรกิจยางพาราภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ กยท. ต้องผลักดันให้เกิดการพัฒนางานวิจัย คิดค้นนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ยางพารา โดยมุ่งเน้นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ดำเนินตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านระบบตลาดนำการผลิต เพิ่มช่องทางการขาย ลดต้นทุนการผลิต ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลที่ได้ผลักดันนโยบายThailand 4.0

นายประพันธ์ บุณยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ด)กล่าวว่า มีแนวคิดแผนแม่บทนำร่องโครงการศึกษาแนวทางการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมยางพาราให้ครบวงจรใน Rubber Valleyเพื่อสร้างเป็นอาณาจักรด้านยางพาราทั้งระบบครบวงจร เป็นจุดศูนย์กลางในพื้นที่อาเซียน ในด้านแหล่งข้อมูล การเรียนรู้ การผลิต แปรรูป ส่งออก เต็มรูปแบบ รวมถึงเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเฉพาะด้านยางพารา แก่ผู้ที่สนใจศึกษาดูงานด้านยางพาราได้อย่างครบวงจร ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้ทราบถึงข้อดี ข้อจำกัด ในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้เกิดขึ้นจริง

โดยการสนับสนุนการศึกษาวิจัยด้านยางพารา ด้วยการจัดสรรเงินกองทุนพัฒนายางพารา5%ของทุกปี สำหรับใช้ศึกษาค้นคว้า วิเคราะห์ และทดลองเกี่ยวกับยางอย่างมีระบบ และได้ร่วมสนับสนุนทุนวิจัยกับหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งในและนอกประเทศเพื่อสร้างบุคลากร