ค้าชายแดน 6 เดือน 6.2แสนล้าน คาดปี 63 พลาดเป้า 1.1 ล้านล้าน

ค้าชายแดน 6 เดือน 6.2แสนล้าน คาดปี 63 พลาดเป้า 1.1 ล้านล้าน

กรมการค้าต่างประเทศผลักดันเพื่อนบ้านทยอยเปิดด่านการค้า ดันมูลค่าการค้าชายแดน 6 เดือน มูลค่า 6.27 แสนล้านบาท คาดปี 2563 ทำได้ 1 ล้านล้านบาท พลาดเป้าที่ตั้งไว้ 1.1 ล้านล้านบาท

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย ในช่วงครึ่งปี 2563 (ม.ค.-มิ.ย.) ว่า มีมูลค่ารวม 627,480 ล้านบาท ลดลง 9.18% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 365,207 ล้านบาท ลดลง 8.60% และนำเข้ามูลค่า 262,273 ล้านบาท ลดลง 9.98% เกินดุลการค้า 102,935 ล้านบาท แต่มูลค่าการค้าชายแดนดังกล่าว ถือว่าทำได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) มีมูลค่า 415,241 ล้านบาท ช่วง 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) ขึ้นมาอยู่ที่มูลค่า 524,357 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการที่ไทยพยามยามเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้เปิดการค้ามากขึ้น หลังปิดด่านจากการระบาดของโควิด-19

มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ไทยเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ผ่อนผันการเปิดด่านการค้า เฉพาะการส่งออก-นำเข้าสินค้า ตามที่ภาคเอกชนเรียกร้อง เพื่อให้การค้าระหว่างกันคล่องตัวมากขึ้น และสินค้าไม่ขาดแคลน ทำให้มีการทยอยเปิดด่านอย่างต่อเนื่อง และผลักดันมูลค่าการค้าขายแดนและผ่านแดนเพิ่มขึ้น คาดว่า เดือนต่อๆ ไป มูลค่าจะเพิ่มขึ้นอีก”

ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยและประเทศเพื่อนบ้านเปิดจุดผ่านแดนถาวร จุดผ่านแดนชั่วคราว จุดผ่อนปรนการค้าและการท่องเที่ยว และจุดผ่อนปรนพิเศษระหว่างกันแล้ว 40 จุด จากเดือนพ.ค.2563 ที่เปิดได้ 37 จุด จากทั้งหมด 97 จุด โดยเป็นจุดผ่านแดนไทยกับสปป.ลาว 13 จุด จาก 13 จุด,เมียนมา 9 จุด จาก 21 จุด,กัมพูชา 9 จุด จาก 18 จุด และมาเลเซีย 9 จุด จาก 9 จุด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้ทยอยเปิดด่านเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการค้าสินค้าผ่านแดนของไทยไปยังเวียดนาม และจีนตอนใต้ มีเส้นทางที่สินค้าไทยผ่าน 23 เส้นทาง แต่ไทยได้เจรจาให้เวียดนาม และจีนเปิดเส้นทางเพื่อขนส่งสินค้าจากไทยแล้ว 19 เส้นทาง เช่น เส้นทางR8 บึงกาฬ, R9 มุกดาหาร, R12 นครพนม เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยจะเพิ่มขึ้น แต่คาดว่าการค้าทั้งปีไม่น่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ปรับลดลงจากก่อนหน้านี้ที่ 1.5 ล้านล้านบาท เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจ และการค้าโลก ยังคงชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 แต่มีความเป็นไปได้ที่จะทำได้มูลค่าประมาณ 1 ล้านล้านบาท

สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และกัมพูชา ในช่วง 6 เดือน พบว่า มาเลเซียเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่าการค้ารวม 109,401 ล้านบาท ลดลง 26.81% รองลงมา คือ สปป.ลาว 92,285 ล้านบาท ลดลง 7.09%,เมียนมา 86,744 ล้านบาท ลดลง 13.65% แต่กัมพูชา 82,023 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.27% โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปมาเลเซีย ได้แก่ ยางพารา เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า,สปป.ลาว ได้แก่ น้ำมันดีเซล สินค้าปศุสัตว์อื่นๆ และสินค้าแร่และเชื้อเพลิงอื่นๆ,เมียนมา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำมันดีเซล และปูนซีเมนต์ และกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สินค้าปศุสัตว์ และรถยนต์นั่ง

ขณะที่มูลค่าการค้าผ่านแดนไปยังจีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น พบว่า จีน มีมูลค่าการค้าสูงสุด 109,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.00% ตามด้วยสิงคโปร์ 41,694 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.70%,เวียดนาม 29,900 ล้านบาท ลดลง 23.89% และประเทศอื่นๆ 75,537 ล้านบาท ลดลง 16.78% สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปจีน ได้แก่ ผลไม้สด เครื่องคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วน และยางพารา,สิงคโปร์ ได้แก่ เครื่องยนต์สันดาป เครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า และเวียดนาม ได้แก่ ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็ง เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ