'จีน' ย้ำ ไม่คิดเป็นแบบ 'สหรัฐ'

'จีน' ย้ำ ไม่คิดเป็นแบบ 'สหรัฐ'

รัฐมนตรีต่างประเทศ "จีน" ชี้ สหรัฐกำลังดึงโลกเข้าสู่ “ความโกลาหลและแตกแยก” และเริ่มสงครามเย็นรอบใหม่ระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก พร้อมยืนยัน ไม่คิดเป็นสหรัฐอีก 1 ประเทศ!

หวังอี้ ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัว เมื่อวันพุธ (5 ส.ค.) ชี้แจงว่า จีนทุกวันนี้ไม่ใช่อดีตสหภาพโซเวียต และไม่ตั้งใจทำตัวเป็นสหรัฐอีกประเทศ

"เราไม่ตั้งใจจะเป็นสหรัฐอีก 1 ประเทศ เราไม่เคยส่งออกอุดมการณ์ ไม่เคยแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น" หวังกล่าว

การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ครอบคลุมประเด็นร้อนในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐ-จีนหลายประเด็น เช่น ประเด็นฮ่องกง หัวเว่ย และทะเลจีนใต้

เจ้าหน้าที่อเมริกันหลายคนเตือนว่า จีนต้องการเป็นมหาอำนาจครอบงำโลกแทนที่สหรัฐ ความรู้สึกเช่นนี้ปรากฏมากขึ้นในถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูง รวมทั้ง ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ และ โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ระบุว่า จีนพยายามพลิกผันระเบียบโลก

ส่งผลให้จีนต้องปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไม่เคยคิดแทนที่สหรัฐ ในทางกลับกันก็กล่าวหาว่า รัฐบาลวอชิงตันพยายามหยุดยั้งจีนที่กำลังผงาดขึ้นในโลก

 

หวังอี้ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกำลังเผชิญความท้าทายใหญ่สุดนับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันมา พร้อมกล่าวโทษว่า สหรัฐเป็นคนทำให้ความสัมพันธ์เสื่อมถอย

"สาเหตุเบื้องลึกมาจากนักการเมืองอเมริกันบางคน ผู้มีอคติและเป็นปฏิปักษ์กับจีนกำลังใช้อำนาจของพวกเขาป้ายสีจีนด้วยข้อมูลบิดเบือน ขัดขวางความสัมพันธ์ปกติกับจีนด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา"

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โลกพากันจับตาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐกับจีน เมื่อ 2 ปีก่อน มหาอำนาจทั้งสองเริ่มทำสงครามการค้าต่างฝ่ายต่างเก็บภาษีกันและกันมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ สร้างความเสียหายมหาศาล

ความตึงเครียดขยายวงไปถึงเรื่องเทคโนโลยี สหรัฐกล่าวหาหัวเว่ย ตามด้วยติ๊กต๊อก (TikTok) แอพพลิเคชั่นแชร์คลิปวีดิโอของบริษัทไบต์แดนซ์ ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงสหรัฐ รัฐบาลวอชิงตันพยายามกดดันพันธมิตรไม่อนุญาตให้หัวเว่ยเข้าไปทำระบบเครือข่าย 5จีในประเทศ

หวังเรียกความเคลื่อนไหวเหล่านี้ของสหรัฐว่า “ตำราตัวอย่างของการกลั่นแกล้ง” ฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าเป็นธรรม ตรงข้ามกับจีนที่เป็นผู้ปกป้องระบบระหว่างประเทศอย่างเหนียวแน่น

ด้าน ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐเรียกร้องให้แบนแอพพลิเคชั่นต่างๆ ของจีนจากแพลตฟอร์มแอพสโตร์ของบริษัทสหรัฐ โดยระบุว่า แอพของจีนไม่น่าไว้ใจ และเป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน อีกทั้งยังได้เรียกร้องให้แบนบริษัทจีนบางรายด้วยเหตุผลด้านสิทธิมนุษยชนด้วย

ปอมเปโอ เผยว่า แอพจีนที่ไม่น่าไว้ใจ เช่น ติ๊กต๊อก(TikTok) และวีแชท (WeChat) เป็นภัยคุกคามข้อมูลส่วนบุคคล และอาจเป็นเครื่องมือของรัฐบาลจีนในการเผยแพร่และเซ็นเซอร์คอนเทนท์ต่างๆ

นอกจากนี้ปอมเปโอยังเรียกร้องให้ปฏิเสธการนำแอพของบริษัทสหรัฐไปใช้บนสมาร์ทโฟนของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี่ โดยระบุว่า หัวเว่ยมีพฤติกรรมที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และเขาไม่ต้องการให้บริษัทสหรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง รวมทั้งยังได้เรียกร้องให้บริษัทสหรัฐเลิกใช้บริการคลาวด์ของผู้ให้บริการสัญชาติจีน เช่น เทนเซ็นต์  อาลีบาบา และไป่ตู้ด้วย

ก่อนหน้านี้ รมต.ต่างประเทศสหรัฐเผยว่า สหรัฐจะออกมาตรการแบนบริษัทซอฟต์แวร์ของจีนอีกหลายแห่งที่ถูกมองว่ามีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของชาติในเร็วๆ นี้

เมื่อวันอาทิตย์ (2 ส.ค.) ปอมเปโอกล่าวในรายการ “Sunday Morning Futures” ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ว่าบริษัทซอฟต์แวร์จีนที่ทำธุรกิจอยู่ในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นติ๊กต๊อกหรือวีแชทและบริษัทอีกหลายแห่งนั้น กำลังส่งข้อมูลของสหรัฐให้กับทางการจีนโดยตรง