ขสมก.พร้อมบริการรถโดยสารตามเวลาปกติ เริ่ม 15 มิ.ย.นี้

ขสมก.พร้อมบริการรถโดยสารตามเวลาปกติ เริ่ม 15 มิ.ย.นี้

ขสมก.ให้บริการรถโดยสารตามเวลาปกติ หลังศบค.ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิว เริ่ม 15 มิ.ย.นี้

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เห็นชอบให้ยกเลิกมาตรการ ห้ามออก นอก เคหสถานทั่วราชอาณาจักร ระหว่างเวลา 23.00 -03.00 น. และเห็นชอบมาตรการ คลายการผ่อนคลายมาตรการ สกัดกั้น การแพร่ ระบาดของเชื้อโควิด - 19 ระยะที่ 4 โดยอนุญาตให้กิจกรรม/กิจการในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง กลับมาเปิดบริการหรือดำเนินการได้ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 แต่ต้องปฏิบัติตามแนวทางการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด  โดยคาดว่าเมื่อดำเนินการ ตามมาตรการ ผ่อนคลายดังกล่าว จะส่งผลทำให้ผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางของ ขสมก.เพิ่มขึ้น เป็นวันละประมาณ 650,000 คน
   
ขสมก.จึงจัดแผนการเดินรถโดยสาร ในช่วงมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 4 ดังนี้
    1. จัดรถออกวิ่ง 100 % (3,000 คัน/วัน) หรือจัดรถออกวิ่งให้สอดคล้องกับความต้องการ ของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา  โดยมีเที่ยววิ่งเฉลี่ย วันละประมาณ 25,000 เที่ยว
    2. ให้บริการรถโดยสารประจำทางในทุกเส้นทาง ตามเวลาปกติ รวมทั้ง จัดรถโดยสารให้บริการตลอดคืน (รถกะสว่าง) ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป
    3. ขสมก.ยังคงดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ดังนี้
       
 3.1 ด้านพนักงานประจำรถ 
              - มีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร  พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร         
       
3.2 ด้านรถโดยสารประจำทาง     
              - เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่านบนรถโดยสาร 
              - ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ ดังกล่าว  เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น  พร้อมทั้งติดตั้งขวด เจลแอลกอฮอล์  สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือ บริเวณประตูทางขึ้น
              - กำหนดจุดนั่ง (เบาะที่ไม่มีเครื่องหมายกากบาท) และจุดยืนให้มีระยะห่างกัน 1 เมตร ซึ่งรถโดยสาร 1 คัน อนุญาตให้ ผู้ใช้บริการ ยืนได้ไม่เกิน 10 คน กรณีผู้ใช้บริการเต็ม พนักงานเก็บค่าโดยสารจะติดป้ายข้อความ “ ผู้ใช้บริการเต็ม โปรดใช้บริการ รถคันถัดไป ”  บริเวณกระจกหน้ารถโดยสาร พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ผู้ใช้บริการรับทราบ  เพื่อรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
               - ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการ  จะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยงให้รีบไปพบแพทย์
3.3  ด้านผู้ใช้บริการ
                - ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะใช้บริการรถโดยสาร
                - ผู้ใช้บริการจะต้องนั่ง และยืนตามจุดที่กำหนด  กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป
                - เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชันไทยชนะ บนรถโดยสาร เพื่อเช็คอินเมื่อขึ้นรถ และเช็คเอาท์ก่อนลงจากรถ
                - ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด