อุตรดิตถ์ จัดพิธี 'แฮกนา ปักตาเหลว'

ชาวนา อุตรดิตถ์ทำ "พิธีแฮกนา ปักตาเหลว" อันเชิญพระแม่โพสพลงนา ขอขมาพระแม่ธรณี ถือฤกษ์ดี วันพืชมงคล นำรถไถ่หยอดเมล็ดข้าวและแบ่งปลูกพืชทดแทนช่วงแล้ง
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 63 ที่แปลงนาหมู่ 2 ตำบลบ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ เกษตรกรนาแปลงใหญ่สหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ซึ่งอยู่ในเขตชลประทานและรับน้ำที่ผันจากแม่น้ำน่าน ตื่นแต่เช้าตรู่ในวันพืชมงคลนำรถไถ่นา อุปกรณ์ทางการเกษตร มายังแปลงนาเพื่อประกอบพิธี “แฮกนา ปักตาเหลว” ซึ่งเป็นพิธีตามความเชื่อโบราณในวันพืชมงคล หรือก่อนที่เริ่มหว่านข้าวนาปี ชาวนาจะตั้งร้านและปักตาเหลวซึ่งสานจากไม้ไผ่เป็นแฉก หรือ 6 เหลี่ยม ภาคกลางเรียก เฉลว ตามความเชื่อว่าเป็นสิ่งมงคล สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องสิ่งชั่วร้าย ศัตรูพืช เพื่อป้องกันไม่ให้ผีร้ายเข้ามาทำลายพระแม่โพสพ พร้อมจัดถวายดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องบวงสรวง ส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ น้ำสะอาด ข้าวและอาหารคาวหวานใส่กระทงใบตอกที่คันนาหรือแดนนา
จากนั้นได้อันเชิญพระแม่โพสพลงสู่ผืนนา นำพันธุ์ข้าวที่จะใช้หว่านในแปลงนาประกอบพิธี “แฮกนา” หรือ “แรกนา” เป็นการบ่งบอกถึงฤกษ์งามยามดีสำหรับการปลูกข้าวนาปี เพื่อขอขมาพระแม่โพสพและพระแม่ธรณี เป็นสิ่งหนึ่งที่ชาวนาได้ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมาเพื่อให้การทำนา สำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี ได้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วยและขายได้ราคาดี พร้อมแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ใช้ประกอบในพิธีให้กับชาวนา นำไปหว่านเพื่อความเป็นสิริมงคลในวันพืชมงคลต่ออาชีพชาวนาหรือเกษตรกรรม แต่ปีนี้ชาวนาลดพื้นที่ทำนาลง เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้ง และน้ำไม่เพียงพอ และปรับที่นาบางส่วนปลูกข้าวโพดหลังนา พืชทดแทนข้าวและใช้น้ำน้อยเสริมอีกทาง
นางศศิวิมล เผือกผูล ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ กำจัด และเป็นเจ้าของแปลงนา กล่าวว่า เนื่องในวันพืชมงคล วันดีฤกษ์ดีของเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนาที่ถือเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ต่างถือปฏิบัติกันมาแต่โบราณ คือขอขมาพระแม่โพสพและพระแม่ธรณี โดยปีนี้เลือกที่นาอยู่ในเขตชลประทาน ใกล้แหล่งน้ำในการปลูกข้าว เป็นการทำนาแปลงใหญ่รวมกลุ่มสมาชิกจำนวน 130 ราย พื้นที่ 3,000 ไร่ และส่งเสริมปลูกข้าวพันธุ์พิษณุโลก 80 เป็นข้าวที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ ปลูกทานในครอบครัวและขายโดยเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่รักสุขภาพ
นอกจากนี้ยังได้เทคโนโลยีทางการเกษตรเข้ามาช่วยคือ เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าวแทนทำนาหว่าน เป็นการประหยัดเมล็ดพันธุ์ได้มากถึงไร่ละ 15 กิโลกรัม ทั้งนี้หากใช้วิธีเดินหว่านแบบเดิม จะใช้เมล็ดพันธุ์ข้าว25 กิโลกรัม/ไร่ หากใช้เครื่องหยอดเมล็ดพันธุ์ข้าว จะใช้ 10 กิโลกรัมต่อไร และข้าวจะขึ้นเป็นระเบียบแถวตรง ง่ายต่อการดูแล กำจัดวัชพืช ส่วนแปลงนาที่อยู่บนที่ดอน หรือไกลแหล่งน้ำ ชาวนาจะปรับที่นาปลูกข้าวโพดทดแทน เพราะใช้น้ำน้อย ที่สำคัญมีแหล่งรับซื้อแน่นอน คือสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ที่รับซื้อผลผลิตทุกเมล็ดตามนโยบายของกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์







